สำนักข่าวต่างประเทศเกาะติดข่าวกรณีกองทัพไทยสร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่าย ด้วยการประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึก มีผลทันทีทั่วประเทศ
สำนักข่าวชั้นนำระดับโลกทั้งเอเอฟพี เอพี รอยเตอร์ส ซีเอ็นเอ็น และบีบีซี พร้อมใจกันนำเสนอรายงานกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกไทย ลงนามประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร โดยให้มีผลตั้งแต่ช่วงรุ่งสางของวันที่ 20 พ.ค. เป็นต้นไป เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมือง และรักษากฎหมาย พร้อมกับยืนยันว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของกองทัพไม่ใช่ "การรัฐประหาร" และขอให้ประชาชนดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ
ทั้งนี้ การประกาศกฎอัยการศึกของกองทัพสร้าง ความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากแทบไม่มีสัญญาณบอกเหตุมาก่อน
โดยเฉพาะกับรัฐบาลรักษาการ ซึ่งเอเอฟพีรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดนายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนรักษาการนายกรัฐมนตรี ว่ารัฐบาลไม่ได้รับแจ้งจากกองทัพในเรื่องนี้มาก่อน แต่เชื่อว่า รักษาการรัฐมนตรีทุกคนจะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป
ขณะที่รอยเตอร์สรายงานเพิ่มเติมว่า ทหารจำนวนมากกระจายกำลังกันเข้าควบคุมสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งในกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าตรู่
เพื่อเตรียมพร้อมการถ่ายทอดสัญญาณการแถลงของพล.อ.ประยุทธ์ และยังคงตรึงกำลังกันอย่างแน่นหนา แม้การถ่ายทอดสัญญาณจะจบสิ้นลงแล้ว ทหารระดับผู้บังคับบัญชานายหนึ่งเผยว่า เจ้าหน้าที่ยังคงต้องประจำการอยู่ตามสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งต่อไป เพื่อขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ก่อนทิ้งท้ายเช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ ว่านี่ไม่ใช่การรัฐประหาร
การประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกของกองทัพไทยมีขึ้นหลังกลุ่มผุ้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รวมตัวกันเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว และเพียง 1 วันหลังนายนิวัฒน์ธำรงปฏิเสธข้อเรียกร้องลาออกจากตำแหน่งของกลุ่มผู้ชุมนุม
นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตย เมื่อปี 2475
กองทัพไทยประสบความสำเร็จในการทำรัฐประหารมาแล้ว 11 ครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2549 เป็นการโค่นอำนาจรัฐบาลภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความแตกแยกทางการเมืองในสังคมไทย