มาเลเซีย แอร์ไลน์ส เผยคำพูด "ราตรีสวัสดิ์" ซึ่งเป็นการโต้ตอบครั้งสุดท้ายระหว่างเที่ยวบินเอ็มเอช370 ที่หายไปนานกว่า 1 สัปดาห์กับหอบังคับการ มาจากนักบินผู้ช่วย ซึ่งเกิดขึ้นหลังมีผู้ปิดสัญญาณจากหนึ่งในระบบเรดาร์ ขณะที่จีนเรียกร้องให้มาเลเซียเผย "ความจริง"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่านายอาห์หมัด เจาฮารี ยาห์ยา ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส แถลงเมื่อวันจันทร์ เกี่ยวกับความคืบหน้าในกระบวนการสืบสวนการหายสาบสูญของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือรวม 229 คน ขณะมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่าเจ้าหน้าที่ยังคงพุ่งเป้าสงสัยไปที่นักบินทั้ง 2 คน คือนายซาฮารี อาห์หมัด ชาห์ วัย 53 ปี ในตำแหน่งกัปตัน และนักบินผู้ช่วย คือนายฟาริค อับดุล ฮาหมิด วัย 27 ปี
ผลการสืบสวนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ฟาริคคือผู้ที่กล่าวคำว่า "ราตรีสวัสดิ์" กับหอบังคับการบิน
ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การติดต่อระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้น เกิดขึ้น 12 นาทีหลังเรดาร์ได้รับสัญญาณครั้งสุดท้ายจากระบบสื่อสารและรายงานสถานะ อากาศยาน ( เอซีเออาร์เอส ) ขณะที่สัญญาณจากเรดาร์ทรานสพอนเดอร์ที่คอยบอกพิกัดเครื่องบินขาดหายไปหลังฟา ริคจบการสนทนา 2 นาที อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงตั้งสมมติฐานต่อว่า น้ำเสียงที่ปกติของฟาริคอาจเป็นเพราะ "การข่มขู่" จากบุคคลอื่นภายในห้องนักบินหรือไม่
นอกจากการสอบประวัตินักบินทั้ง คู่โดยละเอียดอีกครั้งแล้ว ครอบครัวและผู้ใกล้ชิดทั้ง 2 คน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเที่ยวบินนี้ ต้องรับการสอบประวัติอย่างละเอียด
ความเคลื่อนไหวจากฝั่งมาเลเซียมี ขึ้นหลังสำนักข่าวซินหัวรายงาน
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน โทรศัพท์สายตรงไปสนทนากับนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย โดยเป็นการเรียกร้องให้มาเลเซียเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียด โปร่งใสและตรงไปตรงมา เนื่องจากข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ช่วยในภารกิจค้นหา แต่กลับสร้างความสับสนมากกว่าเดิม ทั้งนี้ ผู้โดยสาร 2 ใน 3 ของเที่ยวบินเอ็มเอช 370 เป็นชาวจีน