กงสุลใหญ่ไทยยันเหตุบึ้มแมนฮัตตันไม่ใช่วินาศกรรม

นายรัศมี จิตต์ธรรม กงสุลใหญ่ไทย ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงเหตุการณ์แก๊สระเบิดจนทำให้เกิดไฟไหม้และตึกถล่มในย่านอีสต์ ฮาร์เล็ม เกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า เพลิงที่ไหม้ตัวตึกได้มอดดับหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารที่ถล่มลงมาได้ 

เพราะยังมีความร้อนสะสมอยู่ และขณะนี้เป็นช่วงค่ำแล้ว ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนักเกือบ 1 ชั่วโมงเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยุติการเข้าตรวจสอบและค้นหาภายในตึกชั่วคราว โดยรอเข้าตึกอีกครั้งในเช้าวันที่ 13 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น แต่พื้นที่รอบนอกนั้น เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 

เนื่องจาก นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะเป็นการบริหารจัดการภัยพิบัติครั้งแรกภายหลังเข้ารับตำแหน่ง ทั้งนี้ในคืนวันที่ 12 มี.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่จะเร่งเคลียร์ถนนและทางรถไฟรอบตัวอาคารให้เสร็จ รวมถึงการเข้าตรวจสอบอาคารข้างเคียงว่าโครงสร้างอาคารได้รับความเสียหายหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ผู้ที่อยู่ในอาคารข้างเคียงอพยพออกไป

นายรัศมี กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุระเบิดดังกล่าว ทางการสหรัฐฯยืนยันในเบื้องต้นแล้วว่าเกิดจากแก๊สรั่ว ไม่ใช่การก่อวินาศกรรม เนื่องจากผู้อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงให้ข้อมูลตรงกันว่า ได้กลิ่นแก๊สรั่วฟุ้งกระจายมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีใครแจ้งเจ้าหน้าที่ กลับเพิ่งมีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ก่อนจะเกิดเหตุไม่นาน 

แต่ก็ไม่ทันการณ์ สำหรับอาคารทั้ง 2 หลังที่พังถล่มลงมานั้นเป็นอพาร์ทเมนท์ ซึ่งอาคารแรกมีผู้อาศัย 6 ครอบครัว และอาคารอีกหลังมี 9 ครอบครัว รวมทั้งหมด 15 ครอบครัว แต่ช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลากลางวัน ผู้ที่อาศัยส่วนใหญ่ออกไปทำงาน ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุดระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 3 - 4 ราย บาดเจ็บ 60 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอาคารข้างเคียง อีกทั้งมีผู้สูญหาย 9 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบอยู่ว่าอยู่นอกพื้นที่หรือติดอยู่ภายในอาคาร จึงต้องรอการยืนยันอีกครั้ง

นายรัศมี กล่าวยืนยันว่าไม่มีรายงานว่าคนไทยในนครนิวยอร์กได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากย่านอีสต์ ฮาร์เลม ไม่มีคนไทยอาศัยอยู่ ส่วนในมหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่อยู่ใกล้พื้นที่ และมีนักศึกษาไทยอยู่ประมาณ 30 - 40 คนนั้น ตนได้ประสานกับหัวหน้านักศึกษาไทยที่นั่นแล้ว ทราบว่าทุกคนปลอดภัยดี เพราะส่วนใหญ่จะพักกันอยู่ในหอพักของมหาวิทยาลัยฯ ขณะเดียวกัน คนที่ไม่ได้อยู่หอพักก็กระจายกันอยู่นอกพื้นที่ แต่สถานกงสุลใหญ่ฯ ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด