สาวออสซี่แฉแหลก!!ประวัติผู้ช่วยกัปตันมาเลย์ลำที่หาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก สาวออสซี่แฉแหลก!!ประวัติผู้ช่วยกัปตันมาเลย์ลำที่หาย
สาวออสซี่โผล่แฉประวัติผู้ช่วยกัปตันมาเลย์ลำที่หาย - ชวนนั่งห้องนักบินตลอดการเดินทาง
จากกรณีเครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลนส์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370 จากมาเลเซีย ปลายทางสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน สูญหายบริเวณนอกชายฝั่งเวียดนาม เหตุเกิดวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานความคืบหน้าในการค้นหาเครื่องบินว่า มีหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ชื่อ น.ส.จอนตี้ รูส เปิดตัวว่าตนและเพื่อนผู้หญิงอีกคนเคยได้รับการชักชวนจากนายฟาริก อับ ฮามิด วัย 27 ปี ผู้ช่วยนักบินของเครื่องบินลำดังกล่าว ให้เข้าไปถ่ายรูปและนั่งอยู่ในห้องนักบินตลอดการเดินทางจาก จ.ภูเก็ต ถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อเดือนธ.ค.ปี 2553
น.ส.รูส เปิดเผยพร้อมแสดงภาพถ่ายดังกล่าวกับรายการทีวีของประเทศออสเตรเลีย อะ เคอร์เรนต์ แอฟแฟร์ โดยเล่าว่านายฮามิดและนักบินอีกคนหนึ่งถามตนและเพื่อนระหว่างที่กำลังรอขึ้นเครื่องบินว่าอยากเข้าไปนั่งในห้องนักบินหรือไม่ ตนและเพื่อนตกลง จึงเข้าไปภายในห้องนักบิน กระทั่งเมื่อเกิดเหตุเครื่องบินหายครั้งนี้ จึงตกใจเมื่อได้ยินข่าวว่านายฮามิดเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมเครื่องบินลำนั้น
ขณะที่นายไมเคิล โกลด์ฟาร์บ อดีตหัวหน้าฝ่ายการบินพลเรือนสหรัฐ ระบุว่า การชักชวนผู้อื่นเข้ามาในห้องนักบินเป็นเรื่องที่ละเมิดกฎการบินอย่างชัดเจน ก่อนระบุว่าไม่อยากจะเชื่อว่าสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลนส์ จะยอมรับการกระทำเช่นนี้ได้
ต่อมาซีเอ็นเอ็นรายงานความคืบหน้าในอีกประเด็นที่น่าสนใจ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอากาศมาเลเซียระบุว่า หลังจากสัญญาณของเครื่องบินลำดังกล่าวขาดการติดต่อ ตรวจสอบพบจุดรับสัญญาณของเครื่องบินมีการเปลี่ยนทิศทาง และพบอยู่ใกล้เกาะพูเลาเปรัก ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณช่องแคบมะละกา ระหว่างแหลมมลายูกับเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย ซึ่งห่างจากเส้นทางการบินหลักหลายร้อยกิโลเมตร
ขณะที่ เต็งกู ซาริฟฟุดดิน เต็งกู อาหมัด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงว่าได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่อาวุโสของกองทัพ ซึ่งยืนยันว่าไม่มีหลักฐานว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเปลี่ยนเส้นทางการบินกลับมายังแหลมมลายู และอาจตกบริเวณช่องแคบมะละกา