เว็บไซต์สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ แถลงการณ์ฉบับที่ 6 (9 มีนาคม) โดยขอให้ชาวมาเลเซีย และผู้คนทั่วโลก ร่วมกันอธิษฐาน สำหรับเที่ยวบิน MH370 ที่สูญหายไป เกินกว่า 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่ เที่ยวบิน MH370 ขาดการติดต่อ ตั้งแต่เวลา 01:30 น. ของวันที่ 8 มีนาคม โดยการค้นหาของช่วยเหลือ ยังไม่สามารถตรวจสอบเบาะแสของ เครื่องบินโบอิ้ง 777-200 ได้ ซึ่งทีมค้นหาและช่วยเหลือที่มาจากประเทศมาเลเซีย, สิงคโปร์ และเวียดนาม นั้น ยังไม่สามารถหาหลักฐานของซากปรักหักพังใดๆ ในทะเลได้ จึงต้องรอให้มีแสงสว่างเพียงพอ ในวันนี้จึงจะเข้าค้นหาต่อ
โดยสายการบิน มีการจัดส่งข้อมูลทั้งหมด รายงานสถานการณ์ไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อดูแลและตรวจสอบญาติของผู้โดยสารทั้งหมดอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ทางสายการบิน จะดูแลรับผิดชอค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งผู้โดยสาร และครอบครัว หากมีการค้นพบเครื่องบินลำดังกล่าวแล้ว และยืนยัน จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในกรณีนี้
สหรัฐยันมีอเมริกัน3คนบนมาเลเซียแอร์ไลน์
ความคืบหน้าการค้นหาเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 777 - 200 อีอาร์ ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่หายไปอย่างเป็นปริศนานอกชายฝั่งเวียดนาม ระหว่างเส้นทางบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ในมาเลเซีย มุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
ล่าสุดมีรายงานว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยืนยัน มีพลเมืองอเมริกัน 3 ราย อยู่บนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ที่คาดว่าจะประสบอุบัติเหตุนอกชายฝั่งเวียดนาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ของสถานทูตสหรัฐ ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานทูตสหรัฐ ประจำกรุงปักกิ่ง ติดต่อกับครอบครัวของชาวอเมริกันทั้ง 3 รายแล้ว และกำลังทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ยังมีชาวอเมริกันอีกหรือไม่ บนเที่ยวบินมรณะนี้
คำแถลงยังระบุว่า ทางการสหรัฐ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 แต่ขณะนี้ทางการสหรัฐ ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมได้
ด้านเจ้าหน้าที่ของเวียดนามเผยว่า พบคราบน้ำมันขนาดใหญ่ 2 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเครื่องบินโดยสารลำนี้อาจประสบอุบัติเหตุตกในทะเลนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเวียดนาม
ทั้งนี้ มีการยืนยันว่าเที่ยวบินมรณะนี้มีผู้โดยสารรวม 227 ราย และมีลูกเรือปฏิบัติหน้าที่บนเครื่องอีก 12 ราย และมีการยืนยันจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า โศกนาฏกรรมกลางเวหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับการก่อการร้าย
รวมทั้งมีรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศอิตาลี ยืนยันว่า ลุยจิ มารัลดี พลเมืองของตนวัย 37 ปี ที่มีชื่อเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ ถูกขโมยหนังสือเดินทางขณะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว และเจ้าตัวไม่ได้อยู่บนเครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศออสเตรีย ออกมาแถลงเช่นกันว่า พลเมืองของตนรายหนึ่ง ที่มีชื่อเป็นผู้โดยสารบนเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ลำดังกล่าว ถูกขโมยหนังสือเดินทางระหว่างเดินทางมายังประเทศไทยตั้งแต่ 2 ปีก่อน และเจ้าตัวยังคงปลอดภัยดีอยู่ในออสเตรีย
USAส่งเรือรบร่วมค้น-ชาวประมงเผยไม่พบผิดปกติ
BBC สำนักข่าวชื่อดัง ติดตามการความคืบหน้าการค้นหา เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ MH370 หลังออกเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย มุ่งหน้าสู่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน แต่ทว่า หายไปแบบไม่ทราบชะตากรรมตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกเมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา
ล่าสุดมีรายงานว่า กองทัพสหรัฐ ได้ส่งเรือ "ยูเอสเอส พิงค์นีย์(USS Pinkney)" ออกค้นหา บริเวณนอกชายฝั่งประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ขาดการติดต่อกับหอบังคับการรวมทั้ง ทางกองทัพเวียดนาม และสิงคโปร์ ส่งเครื่องบินร่วมการค้นหาครั้งนี้ด้วย
ขณะที่มีการสอบถามชาวประมงในพื้นที่ใกล้เคียงมีการระบุว่า ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ และไม่เห็นเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์
ส่วนทางกองทัพเวียดนาม พบร่องรอยคราบน้ำมันยาว 190 กม. แต่ยังไม่ยืนยันว่า เกี่ยวข้องกับเครื่องบินหรือไม่
ด้าน เดวิด เลอมองต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างเครื่องบิน เผยว่า "เป็นไปได้ยากที่จะเกิดความล้มเหลวกับตัวเครื่อง เพราะยุคสมัยปัจจุบัน เครื่องบินได้รับการตรวจสอบอยู่ตลอด"