เด็กชายออสเตรเลียวัย 12 ขวบ เคราะห์ร้ายถูกจระเข้น้ำเค็มยักษ์กัดแล้วลากลงไปกินเป็นอาหารในบึงน้ำ หายไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะกำลังว่ายน้ำเล่นกับเพื่อน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่27 ม.ค.ว่าเด็กชายชาวออสเตรเลียวัย12 ขวบรายหนึ่งถูกจระเข็น้ำเค็มขนาดใหญ่กัดแล้วลากลงไปกินเป็นอาหารในบึงน้ำที่ บริเวณมัดกินเบอร์รีบิลลาบอง ในอุทยานแห่งชาติคาคาดูซึ่งตั้งอยู่ห่างจากทางตะวันออกของเมืองดาร์วินของ เขตปกครองนอร์ทเทิร์นเทอริทอรีไปราว 200 กิโลเมตรทั้งนี้ เพื่อนของเด็กชายคนดังกล่าววัยเดียวกันก็ได้รับบาดเจ็บที่แขนเนื่องจากถูก กัดโดยจระเข้น้ำเค็มในเหตุการณ์เดียวกันอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยได้ระดมกำลังทั้งทางบกน้ำและอากาศออกค้น หาร่างของเด็กชายที่หายไปตลอดทั้งวันทั้งคืนแล้วแต่ก็ไม่พบร่างของเด็กโดย เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้สามารถยิงสังหารจระเข้ที่มีขนาดตัวยาวตั้งแต่3 เมตรขึ้นไปได้
เจ้าหน้าที่จึงยิงสังหารจระเข้ไปแล้ว2 ตัว ซึ่วมีความยาว4.3 เมตรและ4.7 เมตร ตามลำดับ
จากนั้นจึงลงมือผ่าท้องพวกมันเพื่อค้นหาร่างของเด็กชายที่หายไปแต่ ก็ไม่พบสิ่งใดที่ระบุว่าเป็นชิ้นส่วนมนุษย์ จำนวนของจระเข้น้ำเค็มในออสเตรเลียนั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่2514ทำให้ขณะนี้ประชากรของพวกมันมีอยู่ราว75,000-100,000 ตัวแล้ว โดยเฉพาะในเขตมาเกลาครีก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติคาคาดู