อุณหภูมิในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐและแคนาดาลดลงต่ำที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ โดยอุณหภูมิในพื้นที่บางแห่งต่ำกว่า -50 องศาเซลเซียส สืบเนื่องจากอิทธิพลของกระแสลมแรงที่พัดมาจากขั้วโลกเหนือ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ( เอ็นดับเบิลยูเอส )
รายงานปรากฏการณ์ "กระแสวนของขั้วโลก" ซึ่งเกิดขึ้นน้อยครั้งมากในประวัติศาสตร์ แต่จะส่งผลให้อุณหภูมิของขั้วโลกเหนือลดต่ำลงกว่าปกติ และแผ่อิทธิพลออกสู่ภายนอก ทำให้ทวีปอเมริกาเหนือต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่ลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแทบทั้งประเทศ โดยเอ็นดับเบิลยูเอสสามารถวัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐมอนแทนา อยู่ที่ -51 องศาเซลเซียส
อิทธิพลของมวลอากาศเย็นที่ปกคลุม 22 รัฐในสหรัฐ ส่วนใหญ่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ศพ ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้ว
เที่ยวบินทั้งในและระหว่างประเทศกว่า 3,700 เที่ยวต้องถูกยกเลิก เนื่องจากหิมะปกคลุมรันเวย์หนาหลายสิบเซนติเมตร และทัศนวิสัยอยู่ในขั้นเลวร้าย ทั้งนี้มีรายงานเครื่องบินโดยสารของเดลตา แอร์ไลน์ส ไถลเข้ากองหิมะที่สนามบินจอห์น เอฟ.เคนเนดี เคราะห์ดีผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้ง 35 คนไม่ได้รับอันตราย แต่เจ้าหน้าที่ต้องปิดสนามบินชั่วคราว
ส่วนทางการแคนาดารายงานอุณหภูมิต่ำสุด -38 องศาเซลเซียส ที่เมืองควิเบกซิตี เมืองเอกของรัฐควิเบก ทางตะวันออกของประเทศ
ขณะที่เมืองโทรอนโต เมืองใหญ่ที่สุดของแระเทศ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นถึง -29 องศาเซลเซียส ถือเป็นอุณหภูมิต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี เช่นเดียวกันในสหรัฐ