หิมะถล่มหนักในสหรัฐฯ ส่งผลให้อุณหภูมิต่ำสุดในรอบหลายปี

ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พื้นที่ทางตะวันออกและตอนเหนือของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับพายุหิมะอย่างหนักหน่วงที่สุดในรอบหลายปี
 
ส่งผลกระทบต่อการเดินทางกลับมาทำงานหลังจากช่วงวันหยุดยาว จนทำให้หลายเมืองเป็นอัมพาต โดยอิทธิพลจากพายุหิมะ ทำให้มีทั้งหิมะตกหนักและลมกระโชกแรง ความเร็วลมไม่ต่ำกว่า 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังส่งผลให้อุณหภูมิในหลายพื้นที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในบางพื้นที่มีหิมะปกคลุมหนาถึง 35 เซนติเมตร ส่งผลให้เที่ยวบิน 1,569 เที่ยวบินต้องยกเลิกการเดินทาง และอีกเกือบ 3,000 เที่ยวบินต้องล่าช้าออกไป เจ้าหน้าที่ประจำสนามบินนานาชาติโลแกนในเมืองบอสตัน คาดว่า เที่ยวบินต่างๆ จะกลับมาให้บริการได้อีกครั้งในช่วงสายวันนี้ (3 ม.ค.57) ขณะที่สำนักพยากรณ์อากาศแห่งชาติของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า จะยังคงมีหิมะตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงเช้าวันนี้ ทั้งในบอสตันและอีกหลายรัฐ อาทิ เวอร์มอนท์ , นิว แฮมเชียร์ และรัฐเมน ที่ขณะนี้มีบ้านเรือนจำนวนมากไม่มีไฟฟ้าใช้ ประชาชนต้องอยู่ท่ามกลางความหนาวเหน็บ

ส่วนที่แคนาดา มีรายงานเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.57) ที่เมืองมอนทริออลและวินนีเพ็ค อุณหภูมิลดต่ำลงถึงลบ 26 องศาเซลเซียส ส่วนที่ควิเบค มีรายงานว่า อุณหภูมิลดต่ำลงถึงลบ 46 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ หิมะที่ปกคลุมบนผิวจราจรหนาหลายสิบเซนติเมตร ทำให้ทางหลวงสาย ไอ-95 ที่เชื่อมระหว่างนิวยอร์กและบอสตัน เคลื่อนตัวได้อย่างช้าๆ ส่งผลต่อผุ้คนจำนวนมากที่กำลังเดินทางกลับมาทำงานหลังจากช่วงวันหยุดยาว และนอกจากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักแล้วยังมีรายงานว่า อาจมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของนิวอิงแลนด์ หลังจากเมื่อวานนี้ต้องปิดทางหลวงหลายสายที่อยู่ริมฝั่งในรัฐแมสซาชูเซส เนื่องจากมีน้ำท่วมเข้ามาบนพื้นผิวการจรจาจร และจากสภาพอากาศที่เลวร้าวที่สุดในรอบหลายปี ทำให้โรงเรียนหลายแห่งต้องสั่งงดการเรียนการสอนต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ด้วย