ฮือฮามนุษย์รู-จำศีล!?!
"ยังอยู่ในรู ญาติไม่เห็นว่าสร้างความเดือดร้อนให้ใคร"
เป็นอันว่าวิถีชีวิตของนายสวน "มนุษย์รู" ที่ลงไปใช้ชีวิตกินนอนอยู่ใต้ดินมานานกว่า 30 ปี ก็จะยังคงดำเนินต่อไปแบบนั้น
ด้วยเพราะญาติๆ ของนายสวน เห็นว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรและไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
นายสวนมุดดินไปอยู่ในรูเพราะความเชื่ออะไรบางอย่าง!??
เรื่องราวของนายสวน หรือนายแงน ใจแจ้ง อายุ 73 ปี ราษฎรบ้านวารีรัตน์ ต.น้ำเกลี้ยง อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ กลายเป็นข่าวดังเกรียวกราวขึ้นมาทันที หลังจากที่ชาวบ้านร่ำลือกันว่าที่บ้านวารีรัตน์แห่งนี้มีมนุษย์รูอาศัยอยู่ ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจึงแห่มาดูนายสวนกันมากมาย
คนที่มาดูมีทั้งพวกต้องการพิสูจน์ความจริง
แต่บางพวกก็มาเพื่อหาเลขเด็ดกันตามสูตร!?!
นายสวนเนรมิตกระท่อมกลางนา ซึ่งปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ดูร่มรื่น เป็นสถานที่ขุดรูหนีความวุ่นวายบนพื้นดิน ตลอดทั้งวันมีประชาชนจำนวนมาก พากันมาดูการดำเนินชีวิตของนายสวนกันคลาคล่ำ
ภายในกระท่อม นายสวนได้ขุดรูขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาว 3 เมตร ลึกลงไปจากผิวดินประมาณ 2 เมตรไว้เป็นที่อยู่อาศัย ด้านบนมีไม้ปิดอยู่ ในรูมีแกลลอนและขวดพลาสติกบรรจุน้ำไว้ดื่มกินแขวนอยู่ พร้อมด้วยเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง
"ขึ้นจากรูก็อาการปกติ"
ตลอดทั้งวันนายสวนใช้เวลาในการหลับนอนไม่ยอมขึ้นมาจากรู และไม่ยอมพูดจากับใครทั้งนั้น ขนาดชาวบ้านพากันเปิดฝารูออก นายสวนก็ยังไม่ยอมพูดจาทักทายใคร ได้แต่เอามือปิดหน้าเพียงอย่างเดียว
สภาพร่างกายของนายสวนซูบผอม ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงตัวเดียว นอนอยู่บนพื้นดินโดยไม่สนใจใคร
พอถึงเวลาจะมีญาติพี่น้องพากันนำอาหารมาส่งให้กินในรู แต่เวลาถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ นายสวนจะอาศัยช่วงที่ไม่มีคนรบกวน ขึ้นมาทำธุระอาบน้ำชำระร่างกาย หลังจากนั้นก็จะกลับลงไปอยู่ในรูเช่นเดิม
เป็นกิจวัตรที่ทำมานานหลายสิบปีแล้ว
นายไข ใจแจ้ง อายุ 76 ปี พี่ชายนายสวน ย้อนเรื่องราวให้ฟังว่า ครอบครัวมีพี่น้องด้วยกัน 3 คน นายสวนเป็นน้องคนเล็ก พวกตนทั้ง 3 คนไม่มีใครแต่งงาน ช่วยกันทำไร่ไถนาจำนวน 20 ไร่ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เป็นมรดกเลี้ยงชีพ ก่อนหน้าที่นายสวนจะลงไปอยู่ในรู ในช่วงสมัยเป็นหนุ่มนายสวนได้ไปรับจ้างเลื่อยไม้และถางป่าที่ภาคใต้ และได้ดื่มเหล้าหนักมาก
เมื่อกลับมาอยู่บ้านนายสวนก็ยังคงดื่มเหล้าอย่างหนัก จนกระทั่งมีอาการขวัญอ่อน หวาดผวาง่าย โดยเฉพาะเวลาเมา ได้ยินเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า นายสวนจะมีอาการหวาดผวาและหวาดกลัวมาก ดังนั้น นายสวนจึงได้ลงไปขุดรูเพื่อหลบซ่อนตัวตั้งแต่ช่วงต้นเดือนม.ค. 2521 เป็นต้นมา โดยจะลงไปอยู่ในรูช่วงละประมาณ 2-3 เดือนในแต่ละปี หลังจากนั้นนายสวนก็จะขึ้นมาจากรูและมาช่วยทำไร่ทำนาตามปกติ เป็นเช่นนี้มานานเกือบ 30 ปีแล้ว
แต่น่าแปลกตรงที่ว่าเวลาที่นายสวนขึ้นมาบนพื้น ก็จะมีบุคลิกท่าทางเหมือนคนทั่วไป พูดคุยกับชาวบ้านทุกคนเหมือนปกติทุกอย่าง แต่พอกลับลงไปในรู จะกลับกลายเป็นคนละคน ไม่ยอมพูดจากับใครทั้งนั้น ทั้งยังหลบหน้าหลบตาผู้คนอีกต่างหาก
นายศุภฤกษ์ นาอ่าง อายุ 30 ปี ชาวศรีสะเกษ ผู้เคยลงไปสำรวจในรูที่นายสวนทำไว้ กล่าวว่า สภาพภายในรูอากาศร้อนอบอ้าวมาก และมีกลิ่นเหม็นของยาฆ่าแมลง ภายในรูไม่มีรูระบายอากาศแต่อย่างใด ตนพยายามชวนนายสวนพูดคุย แต่นายสวนไม่พูดด้วย และเอามือปิดหน้าปิดตาตลอด เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงไม่อยากรบกวน เลยปล่อยให้นายสวนพักผ่อนต่อไป
"แพทย์เข้าไปตรวจช่วยเหลือ"
ใครมาเห็นก็ต้องว่าแปลกทั้งนั้น!?!
หลายคนสงสัยว่านายสวน มีอาการทางประสาทหรือไม่ที่ทำแบบนี้ นายไขยืนยันเสียงแข็ง ว่า นายสวนไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด การลงไปอยู่ในรูของผู้เฒ่ารายนี้ คล้ายเป็นการลงไปจำศีลแบบกบมากกว่า พฤติกรรมของนายสวนเป็นที่ทราบดีในหมู่ชาวบ้าน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของนายสวนที่มักจะลงไปอยู่ในรูคล้ายกับว่าเป็นการพักรักษาตัวเองหลังจากที่ได้เผชิญมลพิษบนดิน และเพื่อล้างพิษหลังจากการดื่มเหล้าอย่างหนักมาตลอดปี
เป็นความเชื่อส่วนตัวของนายสวนที่ใครก็ห้ามไม่ได้
"ไม่อยากให้ใครมารบกวนน้องชายขณะจำศีล พักรักษาตัวในรู เพราะน้องชายจะไม่ยอมพูดจากับใคร ยกเว้นกับคนที่เป็นญาติพี่น้องตอนนำอาหารมาให้เท่านั้น คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป เพราะทำแบบนี้มานานแล้ว ญาติพี่น้องก็ไม่มีใครรู้สึกวิตกกังวล เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ที่สำคัญ ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนหรือทำผิดกฎหมายอะไรที่ไหน" นายไขกล่าว
ทั้งนี้เพื่อสุขภาพพลานามัยของนายสวนเอง นายแพทย์ประวิ อ่ำพันธุ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ จึงนำคณะแพทย์เดินทางไปดูอาการนายสวน และเตรียมให้ความช่วยเหลือครอบครัว "ใจแจ้ง"
แต่สิ่งที่ได้รับมีเพียงแค่คำขอบคุณที่ทีมแพทย์อุตส่าห์ห่วงใยเดินทางมาดูแลถึงที่ ญาติรู้ใจว่านายสวนอยากรักษาตัวอยู่ในรูมากกว่า!?!
หมอประวิ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายสวนมีพฤติกรรมที่ผิดปกติไม่เหมือนกับคนทั่วไป แต่ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร รวมทั้งนายสวนเองก็ไม่ได้รับอันตรายจากการกระทำแบบนี้ จึงไม่น่าห่วงอะไร เป็นเพียงความเชื่อส่วนตัวเท่านั้น แต่ถ้าหากทางครอบครัวต้องการให้แพทย์เข้าไปช่วยเหลือก็ยินดี อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สาธารณสุขอำเภอน้ำเกลี้ยงเข้าไปให้การดูแลด้านสุขภาพโดยรวมแล้ว จะอยู่บนดินหรือใต้ดินก็สุดแล้วแต่
ขอเพียงไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครเป็นใช้ได้