วอนพบหน้าพี่ชาย ´ลีกาชิง´ เศรษฐีดัง พ่อเฒ่าวัย80 พลัดพรากกันนานกว่า60ปี
"พ่อเฒ่าวอนสื่อช่วยเหลือให้พบพี่ชายพลัดพรากนานกว่า 60 ปี"
เจ้าของหอพักเมืองกรุงเก่าวัย 80 วอนสื่อช่วยเหลือขอพบหน้า"ลีกาชิง" มหาเศรษฐีฮ่องกง พี่ชายหลังพลัด พรากกันนาน 60 ปี เปิดเรื่องราวชีวิตรันทดสมัยอยู่เมืองจีนกระทั่งถูกบิดาบังเกิดเกล้าติดฝิ่นอย่างหนัก แยกขายให้พ่อบุญธรรมทั้งคู่ตั้งแต่เด็ก ต้องจากบ้านเกิดมาอยู่เมืองไทย ตั้งรกรากสร้างครอบครัวจนมีฐานะ สืบหาพี่น้องคนอื่นจนเจอหน้าสมใจ แต่ไม่เคยได้พบพี่ชายคนดัง ยืนยันหนักแน่นไม่ได้หวังเงินทอง ครวญแค่คิดถึงอยากเจอหน้าสักครั้งก่อนสิ้นลม
เรื่องราวชีวิตดั่งนิยายเรื่องนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มี.ค. นายจีระวัฒน์ แซ่ลิ่ว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 1 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ ขอร้องให้เป็นสื่อกลางช่วยให้บิดาบังเกิดเกล้าวัย 80 ปี ได้พบกับพี่ชายแท้ ๆ ที่พลัดพรากกันนานกว่า 60 ปี
สักครั้งเนื่องจากสงสารที่เห็นบิดาทุกข์ใจด้วยเรื่องดังกล่าวมานาน จึงอยากทำหน้าที่ลูกกตัญญูมาร้องสื่อให้ช่วยเหลือเพื่อให้ความตั้งใจของบิดาเป็นจริง โดยนาย จีระวัฒน์ได้พาผู้สื่อข่าวไปพบนายย่งโป แซ่ลิ่ว อายุ 80 ปี บิดา ที่บ้านพักเลขที่ ค 51 หมู่ 3 ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา ทันทีที่ไป ถึง พบนายย่งโปซึ่งสุขภาพร่างกายยังแข็งแรงดี นั่งเล่นอยู่ในบ้าน พอทราบว่าผู้สื่อข่าวจะให้ความช่วยเหลือก็ถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ
นายย่งโปเปิดเผยถึงเรื่องราวชีวิตรันทดที่ผ่านมาว่า เดิมทีครอบครัวพักอาศัยอยู่ในประเทศจีน มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นผู้หญิง 2 คน และชาย 3 คน ตนเป็นลูกคนที่ 4 ส่วนพี่ชายที่ต้องการพบหน้าคือนายลีกาชิง หรือชื่อเดิมคือ นายเป่งเซี๊ยะ เป็นลูกคนที่ 2 ตอนนั้นจำได้ว่าปู่ทำมาหากินเป็นพ่อค้า ส่วนพ่อก็ช่วยปู่ค้าขาย แต่ตอนหลังพ่อติดฝิ่นอย่างหนักถึงขนาดต้องขายตนให้กับพ่อบุญธรรม นายลีกาชิงพี่ชายก็ประสบชะตากรรมเดียวกันถูกขายไปเป็นลูกบุญธรรมคนอื่น
"อยากพบพี่ชาย แต่ถูกกีดกันตลอด วอนสื่อช่วย"
"ตอนถูกพ่อขายผมอายุแค่ 8 ขวบ ส่วนพี่ชายอายุ 10 ขวบ เรายังพบหน้ากันบ้างตอนอยู่ที่จีน แต่พอผมอายุ 20 ปี ก็ตามพ่อ บุญธรรมมาอยู่เมืองไทย เปิดร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ที่ พระนครศรีอยุธยา แต่งงานจนมีลูก ๆ ชาย-หญิง รวม 13 คน ก็ไม่ได้พบหน้ากันอีกเลย พอพ่อบุญธรรมตาย ผมก็เลิกกิจการร้านเฟอร์นิเจอร์ หัน มาทำหอพักให้เช่าอยู่ในตัวเมือง ทำให้มีฐานะดีขึ้น มีเงินส่งเสียลูกทั้ง 13 คนจนเรียบจบ พอฐานะดีขึ้นเรื่อย ๆ
ก็เริ่มสืบหาพี่น้องที่พลัดพรากจากกันจนพบหน้าทุกคน โดยทั้งหมดยังคงใช้ชีวิตอยู่ในประเทศจีน ยกเว้นนายลีกาชิง แต่ทราบจากญาติว่าวันนี้พี่ชายกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง และเคยประกาศตามหาพี่น้องเช่นกัน ผมเคยบินไปหาพี่ชายถึงที่ทำงานในฮ่องกงหลายครั้ง หวังจะได้พบหน้าสักครั้งก่อนจะจากโลกนี้ไป แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ของพี่ชาย ไม่ยอมให้พบ ฝากจดหมายไว้ให้ ก็มาทราบตอนหลังว่าเจ้าหน้าที่เอาจดหมายไปทิ้งหมด ไม่ได้ส่งให้พี่ชาย ตอนนี้เลยสิ้นหวังไม่รู้จะยังไง"
พ่อเฒ่าวัย 80 คร่ำครวญทั้งน้ำตา พร้อมยืนยันหนักแน่นว่า ที่ต้องการพบหน้าพี่ชาย ไม่ใช่เพราะต้องการเงินทอง เนื่องจากทุกวันนี้ฐานะความเป็นอยู่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แค่อยากพบหน้าพี่ชายสักครั้งก่อนตาย เพราะอายุมากแล้ว และยังรักและคิดถึงพี่ชายคนนี้เสมอ ทุกวันมัก จะหวนนึกถึงสมัยเด็ก ๆ ที่นอนอยู่ด้วยกัน จึงอยากฝากความรู้สึกนี้ผ่านไปถึงพี่ชายด้วย และพร้อมจะเดินทางไปพบพี่ชายเสมอหากต้องการ
สำหรับ นายลีกาชิง หรือหลี่เจียเฉิง เป็นมหาเศรษฐีชื่อดังของเกาะฮ่องกง เป็นเจ้าของธุรกิจ สื่อสารโทรคมนาคมในจีนแผ่นดินใหญ่ ธุรกิจ โทรศัพท์เคลื่อนที่ พลังงานไฟฟ้า สถานีโทรทัศน์เอเซีย หรือเอทีวีในฮ่องกง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ท่าเรือขนส่ง โรงแรม บริการอินเทอร์เน็ตในแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา และยังเป็นหุ้นใหญ่ในโกลบอลครอสซิ่ง ด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ใน สหรัฐด้วย และนิตยสารการเงินชื่อดัง "ฟอร์บส์" ระบุว่านายลีกาชิงมีทรัพย์สินมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ.