ขายที่ดินบนดวงจันทร์ เศรษฐีมะกันอ้างสิทธิ์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานกรณีพิลึกพิลั่น นักลงทุนชาวอเมริกันอุปโลกน์ตั้งบริษัทซื้อขายที่ดินนอกอวกาศในระบบสุริยจักรวาลทั้งหมด ยกเว้นโลก โดยระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 มี.ค. ว่า ชาวบัลแกเรียตกเป็นเป้าหมายล่าสุดของบริษัทตัวแทนซื้อขายที่ดินบนดวงจันทร์รายนี้ ร่วมกับผู้คนอีกในหลายสิบประเทศทั่วโลก หลังมีรายงานว่า เดอะ โพลดีฟ ลูนาร์ เอ็มบาสซี บริษัทในเครือกาแลคติก กัฟเวิร์นเมนต์ ได้เชิญชวนให้ลูกค้าในบัลแกเรียซื้อที่ดินบนดวงจันทร์ และปรากฏว่าหลังเปิดบริษัทได้เพียง 2 วัน มีลูกค้าจองซื้อที่ดินนอกโลกแล้ว 30 ราย
นายเดนิสลาฟ สตอยเชฟ ผู้ประสานงานบริษัทลูนาร์ เอ็มบาสซี กล่าวว่า สนนราคาที่ดิน 1 เอเคอร์ (2.5 ไร่) บนดวงจันทร์เพียง 40 ลีวา หรือราว 24 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 960 บาท โดยบริษัทจะออกใบแสดงสิทธิครอบครองที่ดินให้ลูกค้าด้วย ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมแผนจัดสรรที่ดิน บนดวงจันทร์บริวารดาวอังคารและดาวพฤหัสเปิดจำหน่ายอีกด้วย
ข่าวแจ้งว่า ที่มาของธุรกิจประกาศขายที่ดินบนดวงจันทร์รายนี้ เกิดจากความคิดของนายเดนนิส โฮป นักธุรกิจชาวอเมริกัน ผู้ประกาศตนเมื่อปี 2523 อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดินบนดวงจันทร์และดาวทุกดวงในระบบจักรวาล ยกเว้นโลก โดยอาศัยช่องโหว่ของสนธิสัญญาอวกาศส่วนนอกของสหประชาชาติ ที่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าที่ดินในอวกาศอยู่ในความครอบครองของผู้ใด
นายสตอยเชฟเผยว่า ผู้คนส่วนใหญ่หัวเราะเยาะแนวคิดการซื้อขายที่บนดวงจันทร์ แต่เขาเชื่อว่าในอีก 100 ปีข้างหน้า มนุษย์อาจต้องขยับขยายไปอยู่บนดวงจันทร์หรือดาวอังคาร และตนก็ต้องการเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น ทั้งยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังเหลือที่ดินบนดวงจันทร์อีกประมาณ 1,000 ล้านผืน ให้เลือกซื้อ พร้อมกับอวดอ้างว่าแม้กระทั่งอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน แห่งสหรัฐฯ องค์สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ที่ล่วงลับไปแล้ว และมาดอนนา นักร้องสาวใหญ่คนดัง รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์การนาซาหลายคน ยังควักกระเป๋าซื้อที่บนดวงจันทร์มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า เมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลจีนได้สั่งปิดสาขาบริษัทลูนาร์ เอ็มบาสซี ในประเทศ โดยระบุว่าการซื้อขายที่ดินบนอวกาศเป็นเรื่องหลอกลวงและผิดกฎหมาย