เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 มี.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ม.5 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่า
เกิดเหตุประหลาดชาวบ้านคลอดลูกออกมาเหมือนไข่ไก่ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าที่บ้านเลขที่ 57 ม.5 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา มีชาวบ้านกำลังเดินทางเข้ามามุงดูกันอย่างเนืองแน่น โดยผลัดกันทยอยกันขึ้นไปดูเหตุการณ์ประหลาดดังกล่าวเนื่องจากเป็นบ้านยกสูงสภาพเก่า และทรุดลง
โดยพบนางโสภารัตน์ พันธรักษ์ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นคนที่คลอดลูกออกมาเป็นไข่
และมีการนำไข่มาตั้งไว้ในพานรองผ้าขาว โดยมีชาวบ้านจุดธูปเทียนกราบไหว้ และถาดเงินตั้งไว้ให้คนใส่เงินบูชา ทั้งนี้นางโสภารัตน์ กล่าวว่า คลอดลูกออกมาเป็นไข่ตั้งแต่เมื่อวาน เวลา 11.00 น. ซึ่งก็แปลกใจมาก โดยก่อนหน้านั้นได้มีเทวดาเข้าฝันว่านำผ้าขาวกับไข่มาให้
โดยตนได้ท้องเป็นเวลา 11 เดือน และเกิดเวลา 11.00 น. ของวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งก่อนที่จะคลอด 2 วัน นั้นมีน้ำเมือกออกมาก่อน
และวันที่สองมีเลือดออกมา ก่อนจะคลอดลูกเป็นไข่สีชมพู มีลักษณะนิ่มๆ หลังจากนั้นแม่ของสามีคือนางเขียน กงหวั่น อายุ 86 ปี เอาผ้าขาวมาเช็ดเลือด ปรากฏว่ากลายเป็นไข่ ซึ่งมีลักษณะเหมือนไข่ไก่ทุกอย่าง ทำให้ทุกคนแปลกใจมาก กระทั่งชาวบ้านละแวกใกล้เคียงทราบจึงเดินทางมาดูกันอย่างไม่ขาดสาย
ทางด้านนางเขียน กงหวั่น แม่สามีของนางโสภารัตน์ กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ตนเองก็ได้ฝันว่าลูกของนางโสภารัตน์ เป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ชั้น 16 จะลงมาจุติในท้องของลูกสะใภ้เพื่อมาช่วยเหลือชาวบ้าน และให้โชคให้ลาภ และลูกสะใภ้ท้องไม่เหมือนคนทั่วไป โดยท้องจะใหญ่ในวันเสาร์ วันอังคาร และวันพระ และท้องนานกว่าคนท้องทั่วไป คือท้องเป็นเวลาถึง 11 เดือน ตนซึ่งเป็นหมอตำแยสังเกตมานานแล้ว ได้ไปหาหมอตามปกติ แต่หมอบอกว่าพบสิ่งผิดปกติในท้องลูกสะใภ้ เป็นก้อนเนื้อในท้อง แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย กระทั่งในวันที่นางโสภารัตน์ ลูกสะใภ้เจ็บท้องคลอด ตนก็ได้เป็นผู้ทำคลอดด้วยตัวเอง โดยพบว่าลูกสะใภ้เจ็บท้องมากผิดปกติ เจ็บมากกว่าท้องอื่นๆ พอมันโผล่ออกมาตนจึงได้เอาผ้าขาวมารองรับจนกระทั่งลูกสะใภ้คลอดออกมาเป็นไข่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่นางโสภารัตน์ คลอดออกมาผิดปกติ
มีชาวบ้านที่รู้ข่าวเดินทางมาดูกันเป็นจำนวนมากแออัดกันขึ้นไปบนบ้าน จนทำให้บ้านถึงกับทรุดตัว เพราะต้านน้ำหนักคนที่ขึ้นมาบนบ้านไม่ได้ ก่อนจะมีการซ่อมแซมบ้านที่ทรุดตัว หลังจากนั้นก็กะเกณฑ์ให้ชาวบ้านเข้าคิวขึ้นไปดูครั้งละ 10 คน ซึ่งชาวบ้านที่มาดูต่างพากันตีเป็นเลขเด็ดต่างๆ หรือบางคนอธิษฐานกันต่างๆ นานาตามความเชื่อ