พบตะปูปริศนา 3 ตัว โผล่ในท้องสาว
"ตะลึงพบตะปูในท้องสาว"
เมื่อตอนสายวันที่ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 62/2 หมู่บ้านใหม่หัวนา ซอยพุทธไชโย ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีชาวบ้านพูดกันปากต่อปากจนกลายเป็นไฟลามทุ่งว่าเกิดเหตุประหลาดกับลูกสาวเจ้าของบ้านคือแพทย์ตรวจพบตะปูโผล่อยู่ในช่องท้อง เมื่อเดินทางไปถึงพบกับ น.ส.สิริลักษณ์ หรือต้อม อยู่เหมาะ อายุ 25 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน สภาพใบหน้าอิดโรย ขอบตาเขียวคล้ำอย่างเห็นได้ชัด คล้ายกับเพิ่งฟื้นจากอาการป่วยมาหมาดๆ เมื่อทราบจุดประสงค์ของผู้สื่อข่าว น.ส.สิริลักษณ์ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง พร้อมนำตะปูที่อ้างว่าเพิ่งถ่ายออกมาจำนวน 2 ตัว มาให้ดูเพื่อเป็นการยืนยัน โดยตัวแรกมีขนาดความยาว 2 นิ้วครึ่ง ปลายงอ ส่วนอีกตัวยาว 2 นิ้ว ตัดปลาย
น.ส.สิริลักษณ์ลำดับเหตุการณ์ให้ฟังว่า ทำงานเป็นแม่บ้านโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาเมื่อปลายเดือน ม.ค. 2550 เริ่มมีอาการเจ็บในช่องท้องด้านซ้ายโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงลางานกลับไปพักผ่อนที่บ้าน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น และเริ่มเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทนไม่ไหวตัดสินใจไปพบแพทย์ที่ศูนย์หัวหินอินเตอร์เนชั่นเนล สหคลินิก เมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 ก.พ. แพทย์ตรวจร่างกายแล้วส่งไปเอกซเรย์ที่ รพ.หัวหิน เนื่องจากเครื่องเอกซเรย์ที่ศูนย์ฯชำรุดอยู่ระหว่างการซ่อม หลังแพทย์นำตัวเข้าเอกซเรย์แล้วถึงกับตะลึงเมื่อพบว่ามีวัตถุคล้ายตะปู 2 ตัว โผล่อยู่ในช่องท้องบริเวณช่วงลำไส้ใหญ่ตอนต้น ในช่วงนั้นแพทย์เจ้าของไข้ไม่แน่ใจส่งตัวกลับไปเอกซเรย์ที่ศูนย์หัวหินอินเตอร์เนชั่นแนล สหคลินิก อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่ศูนย์ฯซ่อมเครื่องเอกซเรย์เสร็จพอดี
"หมองง เอ็กซเรย์ซ้ำก็เจอ"
ผลจากการเอกซเรย์ออกมาตรงกัน และยังพบวัตถุคล้ายตะปูเพิ่มอีก 1 ตัว บริเวณกลางช่องท้อง สร้างความประหลาดใจให้กับแพทย์และญาติพี่น้องของตนเป็นอย่างมาก แพทย์ซักถามประวัติอย่างละเอียด ตนยืนยันกับแพทย์ว่าไม่ได้กลืนตะปูลงท้องอย่างแน่นอน แพทย์เจ้าของไข้แจ้งวิธีรักษา 2 วิธี คือผ่าตัด แต่ไม่แนะนำ กับรอให้ร่างกายขับถ่ายออกมาเองทางทวารหนัก ซึ่งแพทย์ตัดสินใจใช้วิธีหลัง เนื่องจากตรวจสอบวัตถุดังกล่าวแล้วพบว่าไม่มีคมที่จะเป็นอันตรายใดๆ พร้อมกับอนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน ระหว่างกลับมาอยู่บ้านอาการเจ็บท้องยังคงเป็นๆหายๆ กระทั่งเมื่อวันที่ 4 ก.พ.มีอาการปวดอุจจาระอย่างรุนแรง ปรากฏว่าถ่ายออกมาเป็นเลือด และมีตะปูขนาด 2 นิ้วครึ่ง หลุดออกมาด้วย 1 ตัว ลักษณะปลายงอ จากนั้นในวันที่ 6 ก.พ. ขณะที่ไปไหว้หลวงพ่อทวด ส.ก.องค์ใหญ่ ที่วัดห้วยมงคล เพื่อขอพรช่วยคุ้มครอง ได้ถ่ายอุจจาระโดยมีตะปูหลุดออกมาเป็นตัวที่ 2 ขนาด 2 นิ้ว ลักษณะตัดปลาย มีคราบสนิมเกาะเกรอะกรัง จึงนำตะปูทั้ง 2 ตัว ไปพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ
ในขณะที่นายสัมฤทธิ์ อยู่เหมาะ อายุ 56 ปี บิดาของ น.ส.สิริลักษณ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนและครอบครัวรู้สึกงงกันมาก พยายามคาดคั้นลูกสาวว่ากลืนกินตะปูเข้าไปหรือไม่ ได้รับการยืนยันว่าไม่ได้กลืน และยังบอกว่าสติยังดี ไม่ได้บ้าถึงต้องกินของแปลกๆเข้าไป
"ทำได้ยากถ้าจะกลืนเอง"
แต่ด้วยความไม่แน่ใจยังสอบถามลูกสาวอีกว่าทะเลาะกับแฟนแล้วกลืนตะปูเพื่อประชดหรือเปล่า ลูกสาวบอกว่าถ้าจะประชดเอามีดแทงไม่ดีกว่าหรือ ทำให้ตนและคนในครอบครัวเชื่อว่าลูกสาวคงไม่กลืนตะปูเข้าไปแน่นอน เพราะทุกคนอยู่ในบ้านเดียวกัน เห็นพฤติกรรมของลูกสาวมาโดยตลอด ขณะนี้ยังรู้สึกแปลกใจไม่หาย ลูกสาวไม่เคยมีปัญหาใดๆกับใครหรือแม้แต่คนในครอบครัว
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ นพ.ดนัย อดุลยศักดิ์ ผจก.ศูนย์หัวหินอินเตอร์เนชั่นแนล สหคลินิค เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ได้รับการเปิดเผยว่า ครั้งแรกที่เห็นฟิล์มเอกซเรย์ของ รพ.หัวหิน รู้สึกตกใจแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ต้องขอให้ผู้ป่วยถ่ายเอกซเรย์กับที่ศูนย์ฯอีกครั้ง ปกติการจะกลืนกินตะปูขนาดใหญ่เข้าไปเชื่อว่าน่าจะลำบาก ส่วนที่ปล่อยให้คนไข้ขับถ่ายออกมาเองนั้นถือว่าปลอดภัยที่สุด ยกเว้นว่าตะปูไปติดหรือบาดอวัยวะส่วนที่เป็นอันตรายจำเป็นต้องผ่าตัด สำหรับตะปูอีกตัว คาดว่า น.ส.สิริลักษณ์ คงถ่ายออกมาพร้อมกับตะปูตัวแรกแล้ว เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน แต่คนไข้ไม่ทันสังเกต ตอนนี้ผู้ป่วยเกือบจะไม่มีอาการปวดท้อง แต่เพื่อความแน่ใจจะเอกซเรย์ อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 9 ก.พ.นี้