นักโบราณคดีตื่น!! พบโครงกระดูกคู่รักกอดกันหวานหยด!?
"อายุกว่า 5 พันปี"
เดลิเมล์ นักโบราณคดีขุดพบโครงกระดูกคู่รักที่อยู่ในอ้อมกอดอันอ่อนโยนของกันละกัน ณ แหล่งโบราณคดียุคหินใหม่ในอิตาลี คาดว่าน่าจะมีอายุกว่า 5,000 ปี ทั้งนี้ เป็นความประหลาดใจครั้งแรกของนักโบราณคดีที่ขุดพบโครงกระดูกชายและหญิงกอดกัน
นักโบราณคดีกำลังตรวจสอบโครงกระดูกที่ขุดพบที่แมนทัว ทางเหนือของอิตาลี เพื่อพยายามหาอายุที่แท้จริงของโครงกระดูกก่อนที่พวกเขาจะเสียชีวิต และระยะเวลาที่พวกเขาถูกฝังอยู่ใต้ผืนดิน
ขณะที่ เอเลนา มีนอตติ ผู้นำการขุดค้นครั้งนี้เผยว่า เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยมีใครขุดพบโครงกระดูกชายและหญิงกอดกันมาก่อน แม้ว่าจะเคยพบโครงกระดูกหญิงกอดเด็กก็ตาม ซึ่งเป็นไปได้ว่าฝ่ายชายอาจตายก่อน จากนั้นฝ่ายหญิงก็ถูกฆ่าบูชายัญเพื่อหลอมรวมวิญญาณกับฝ่ายชาย และได้อยู่ร่วมกันในโลกหลังความตาย
"โครงกระดูกกอดกัน"
นอกจากนี้ มีนอตติยังระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พวกเขาน่าจะยังอายุน้อยอยู่ เนื่องจากฟันของพวกเขายังไม่กร่อน แต่การกำหนดอายุที่แน่ชัดขณะที่พวกเขาเสียชีวิตนั้นยังคงต้องผ่านการทดสอบในห้องแล็บต่อไป
สำหรับ โครงกระดูกทั้งคู่ได้รับการขนานนามว่า เป็นคู่รักแห่งวาลดาโร โดยที่มีการพบลูกธนูบริเวณสันหลังของฝ่ายชาย ขณะที่ พบหัวลูกธนูบริเวณสีข้างของฝ่ายหญิง
ทั้งนี้ เมื่อ 5,000 ปีก่อน พื้นที่บริเวณแมนทัวเป็นหนองน้ำที่มีแม่น้ำไขว้ผ่าน โดยสภาพแวดล้มช่วยรักษาโครงกระดูกให้อยู่ในสภาพเกือบสมบูรณ์ ซึ่งชนเผ่าที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ดำรงชีวิตด้วยการล่าสัตว์ จับปลา เดินทางทางเรือ
อย่างไรก็ตาม ตามนิยายของเช็กสเปียรส์ โรมิโอถูกเนรเทศให้ไปอยู่เมืองแมนทัว เพราะเขาสังหารทิบอลต์ คาปุเล็ต ญาติของจูเลียตในการแข่งฟันดาบ แต่เขาก็กลับมายังเวโรนาเมื่อทราบข่าวว่าจูเลียตผู้เป็นที่รักของเขาตายแล้ว นอกจากนี้ ร่างไร้ชีวิตของทั้งคู่ยังนอนเคียงข้างกันไม่ได้กอดกันเช่นโครงกระดูกที่นักโบราณคดีเพิ่งขุดพบด้วย