วันนี้ (4 ก.ค.) นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงโครงการไข่ใหม่แลกยาเก่าว่ากระทรวงสาธารณสุขได้จัดงบประมาณไว้จังหวัดละ 1 แสนบาท ซึ่งคิดว่ายังพอได้ โดยจะรวบรวมยาเก่า ยาแผนปัจจุบัน ในช่วงวันที่ 2-5 ก.ค.นี้ และจากการรับแลก 2 วันที่ผ่านมาได้รับยามาแล้ว 8,774,121 เม็ด โดยโรงพยาบาลที่มีการนำยามาคืนมากที่สุดได้แก่ โรงพยาบาลชุมชน 3,839,460 เม็ด รพ.ทั่วไป 1,610,371 เม็ด โรงพยาบาลศูนย์ 1,275,990 เม็ด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1,116,094 เม็ด ชนิดของยาที่นำมาคืนมาที่สุด คือ 1.ยังไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นยาชนิดใด 2,705,752 เม็ด ยาลดความดัน 1,731,650 เม็ด และยารักษาโรคเบาหวาน 1,714,780 เม็ด และ ยาลดไขมันในเลือด เป็นต้นทั้งนี้คาดว่าตลอดช่วงระหว่างวันที่ 2-5 ค.นี้น่าจะได้รับยาประมาณเกือบ 15-20 ล้านเม็ด หากว่ายังมียาที่จะมาแลกไข่เพิ่ม ก็จะพิจารณาขยายเวลาและงบประมาณเพิ่มเติม ส่วนงบประมาณไม่น่ามีปัญหาเพราะว่าใช้ไม่มาก
“เป้าหมายจริง ๆ ก็คือเพื่อที่จะนำยาเก่าที่ประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ ถ้านำไปใช้อีกอาจจะเป็นยาที่หมดอายุ เกิดอันตรายต่อสุขภาพ และนอกจากนี้เพื่อทราบข้อมูลว่ามียาเก่าตกค้าง โดยประชาชนอาจจะซื้อหาเอง หรือรับจากสถานพยาบาลแล้วไปใช้ไม่ตรงหรือใช้ไม่หมดทำให้มียาเหลืออยู่ ก็จะเป็นการสร้างจิตสำนึกในเรื่องของการใช้ยา ทั้งในส่วนของคนไข้ ทั้งในส่วนของแพทย์ผู้จ่ายยาด้วย ในอนาคตเราคิดว่าเราจะควบคุมเรื่องการใช้ยาไม่ให้มากจนเกินไป เพราะปัจจุบันมีการใช้ยาปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท จะต้องมีการควบคุม นี่คือขั้นตอนแรกในอนาคตจะมีถุงยาให้กับคนไข้ที่มาตรวจที่โรงพยาบาล และถุงยานี้ เมื่อมาตรวจซ้ำก็เอาถุงยามาด้วย เอายาเก่าที่เหลือใส่มาด้วย แพทย์จะตรวจดู”นพ.สุรวิทย์ กล่าว
ด้าน นพ.นิทัศน์ รายยวา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แต่ละจังหวัดจะมีการรายงานตัวเลขยาเก่าโดยคีย์ข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตทุกวัน ซึ่งตอนนี้มีการรายงานเข้ามาทุกพื้นที่ หลังวันที่ 5 ก.ค.คงจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น โดยยาที่นำมาแลกนั้นจะนำมาแยกว่าเป็นยาภายนอกประเทศหรือในประเทศ ส่วนที่มีคนถามกันมากว่า ยาที่นำมาแลกนั้นจะได้ไข่กี่ใบ ขอเรียนว่าไม่อยากให้ตีมูลค่ายาเป็นเงิน แต่จะดูความเหมาะสมของจำนวนคนในครอบครัว และฐานะทางบ้าน โดยอาจให้ตั้งแต่ 5-20 ฟอง เพื่อสัมมนาคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามภายในสิ้นเดือนนี้อาจมีการขยายโครงการโดยเปิดให้แลกในกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งพื้นที่ กทม.ด้วย โดยต้องรอนโยบายจาก รมว.สาธารณสุขอีกครั้งแต่ได้มีการพูดคุยให้เตรียมการบ้างแล้ว.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
