วธ.ตะลึง-พบทั้งหมู่บ้าน ตั้งชื่อลูกเป็นภาษาฝรั่ง!

วธ.ตะลึง-พบทั้งหมู่บ้านตั้งชื่อลูกเป็นภาษาฝรั่งหวั่นเกิดวิกฤตภาษาไทย คนรุ่นใหม่ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง และไม่นิยมใช้ จนน่าเป็นห่วงเตรียมรณรงค์ให้ปี 50 เป็นปีหันมาใช้ภาษาไทยและผ้าไทย

เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวระหว่างมอบนโยบายแก่ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด(สวจ.)ทั่วประเทศ ในงานประชุมสัมมนานักบริหารวัฒนธรรมว่า ขณะนี้วธ.ออกแผนปฏิบัติงานปีรณรงค์ภาษาไทย และการแต่งกายด้วยผ้าไทยออกมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนไทยใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง และให้หันมาใช้ผ้าไทย โดยจะรณรงค์ตามสื่อต่างๆ การสัมมนา ประกวด อบรม พร้อมกับจัดทำแผนแม่บทเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมการใช้ภาษาไทยและการแต่งกายด้วยผ้าไทย

นายวีระ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจึงต้องการความร่วมมือจากสวจ.ทั่วประเทศรณรงค์ให้ชาวบ้านท้องถิ่นหันมาใช้ภาษาไทยและผ้าไทยตลอดปี 2550 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม เห็นชอบและให้ดำเนินการ

นายวีระ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาวธ.ร่วมมือกับสถาบันรามจิตติ สำรวจวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของเด็กและเยาวชน เรื่อง"ชีวิตกับความเป็นไทย" โดยสุ่มตัวอย่างเยาวชนทั้งสิ้น 3,360 คน จาก 14 จังหวัดทั่วประเทศ ในหัวข้อ"(รักษ์)ภาษาไทย" พบว่า เด็กไทย ร้อยละ 36 ชอบชื่อเล่นฝรั่งมากกว่าชื่อไทย ร้อยละ 35.2 บอกว่า ชื่อร้านเท่ๆต้องเป็นชื่อฝรั่ง ร้อยละ 43.9 ยอมรับว่า ออกเสียงควบกล้ำไม่ชัด ร้อยละ 24.4 ท่อง พยัญชนะ ก-ฮ ไม่ได้ ร้อยละ 32 สะกดคำในภาษาไทยผิดเป็นประจำ ร้อยละ 42.8 มีปัญหาในการนึกคำหรือภาษาสวยๆ ไม่ออก และเด็กไทย ร้อยละ 59.9 มีปัญหาวิชาเรียงความ ส่วนหัวข้อ งามอย่างไทย พบว่า การแต่งกายเด็ก ร้อยละ 86.9 ยอมรับว่าวัยรุ่นหญิงสมัยนี้แต่งตัวโป๊เกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็มีร้อยละ 27.1 เห็นว่าการแต่งตัวตามแฟชั่นสำคัญกว่าการแต่งตัวให้เรียบร้อย

"หากเราไม่ช่วยกันรักษาภาษาไทยไว้ ต่อไปคงจะเกิดวิกฤตภาษาไทย ไม่ค่อยมีคนใช้ภาษาไทย อย่างหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคอีสาน พ่อแม่นิยมตั้งชื่อลูกเป็นภาษาอังกฤษหมดเกือบทั้งหมู่บ้าน เช่น ทอม เจ กิ๊ฟ เอ บี ซี แนท แอ๊นซ์ บอย บอล เบล แพท ไมเคิล ไม่ชอบตั้งชื่อลูกเป็นภาษาไทยกันแล้ว ดังนั้นหากยังปล่อยไว้อย่างนี้ต่อไปคงไม่มีใครใช้ชื่อภาษาไทยเป็นแน่" ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว

ด้านคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า นอกจากปรากฏการณ์ที่พ่อแม่ชอบตั้งชื่อลูกเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหมู่บ้านจัดสรร ร้านอาหาร และโรงแรมที่ตั้งอยู่ทั่วประเทศมักตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษหมด โดยหมู่บ้านจัดสรรกว่าร้อยละ 90 ตั้งเป็นชื่อภาษาอังกฤษหรือต่อท้าย เช่น คำว่า การ์เด้น วิลล่า เลคฮิลล์ ซึ่งในทรรศนะของตนแล้วเห็นว่าการที่บริษัทต่างๆ นิยมตั้งชื่อภาษาอังกฤษเนื่องจากต้องการเพิ่มมูลค่า ยอดขาย และดึงดูดใจลูกค้ามากกว่าการตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นภาษาไทย

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า นั่นหมายความว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบซื้อบ้านที่เป็นภาษาอังกฤษด้วย เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสถานะของภาษาไทยคงจะสูญหายไปในไม่ช้า ขณะเดียวกันเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีรัฐมนตรีหลายคนในคณะรัฐมนตรี เข้ามาหารือกับตนเกี่ยวกับการรณรงค์การใช้ภาษาไทยของกระทรวงวัฒนธรรม ว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมเมื่อไหร่ ซึ่งเรื่องนี้ใช้มาตรการทางกฎหมายมาควบคุมไม่ได้ กระทรวงวัฒนธรรมจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนหันมาใช้ภาษาไทย และใช้ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์และความเป็นชาติไทยที่มีภาษาเขียนและภาษาพูดเป็นของตัวเองต่อไป