นายเติมชัย บุญนาค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)
เปิดเผยในงาน เสวนาแนวทางการบริหารจัดการเอ็นจีวีเป็นพลังงานทางเลือกอย่างยั่งยืนในระยะยาว ว่า ปตท. ร่วมกับกระทรวงพลังงานจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมด้วย
นายเติมชัยกล่าวว่า ปตท.มีแผนจะเสนอรัฐบาลชุดใหม่ขอปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี โดยราคาเฉลี่ยที่ควรจะเป็นในปัจจุบันอยู่ที่ 14 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)
แต่ปัจจุบันควบคุมราคาไว้ที่ 8.50 บาทต่อ กก. ทำให้ ปตท.ขาดทุนสะสมแล้วประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม ช่วงระหว่างรอรัฐบาลใหม่ ปตท.ได้เสนอตัวเลขต้นทุนเอ็นจีวีให้คณะกรรมการพิจารณา ซึ่งกระทรวงพลังงานอาจให้มีการทบทวนการปรับราคาทุก 4 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ทั้งนี้เมื่อมีรัฐบาลใหม่ก็จะเสนอให้มีการปรับขึ้นราคาเอ็นจีวี
นายเติมชัยกล่าวว่า ปตท.ได้ชี้แจงว่าราคาขายเอ็นจีวีเป็นราคาเดียวกับที่ขายเพื่อเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า
โดยส่วนที่ขายเป็นเอ็นจีวีคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 5% ซึ่งต้นทุนราคาเนื้อก๊าซฯที่ปลายท่อส่งก๊าซฯจะเท่ากันที่ประมาณ 8.39 บาทต่อ กก. โดยเอ็นจีวีจะมีการบวกต้นทุนค่าดำเนินการสถานีบริการตามแนวท่อ ประมาณ 2.43 บาทต่อกก. ค่าการตลาดของสถานีแม่ ประมาณ 50 สตางค์ต่อ กก. และเมื่อรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (แว็ต) ราคาเอ็นจีวีที่แนวท่อจะอยู่ที่ประมาณกว่า 12 บาทต่อกก. แต่เมื่อรวมค่าบริหารจัดการ และค่าขนส่งแล้วราคาเอ็นจีวีจะเป็นเท่าไรก็จะขึ้นอยู่กับระยะทาง แต่การที่ ปตท.กำหนดราคาต้นทุนที่ประมาณ 14 บาทต่อ กก. เพื่อเป็นการเฉลี่ยราคาขายระหว่างระยะทางใกล้และไกลให้เท่ากัน เพราะหากขายตามต้นทุนจริง ราคาเอ็นจีวีที่อยู่ไกลแนวท่ออาจสูงถึง 20 บาทต่อ กก.ตามต้นทุนค่าขนส่ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
