ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ สัญญาที่จะให้เงินช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทอร์นาโดทาง ขณะจำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุทอร์นาโดพัดถล่มหลายพื้นที่ภาคใต้ของสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 339 คนเมื่อวานนี้ นับเป็นความรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่พายุแคทรีนาพัดถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ เมื่อปี 2005
ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และภรรยา นางมิเชล โอบามา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนผู้รอดชีวิต ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุทอร์นาโดที่เมืองทุสคาลูซา รัฐอลาบามา ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดรัฐทางภาคใต้ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง คิดเป็นมูลค่าราว 2-5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
เขาร่วมหารือกับนายโรเบิร์ต เบนท์ลีย์ ผู้ว่าการรัฐอลาบามา โดยผู้นำสหรัฐฯบอกว่า เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อฟื้นคืนชุมชนให้กลับมาเป็นเช่นเดิม การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยลืมประชาชน เขายอมรับว่าเป็นหายนะภัยที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เขาให้คำมั่นว่ารัฐบาลกลางจะช่วยเหลือขั้นสูงสุดต่อมูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินและการฟื้นฟูบูรณะ
ที่รัฐอลาบามา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 238 คน ขณะที่ 1,700 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรัฐมิสซิสซิปปี อาร์คันซอ เทนเนสซี จอร์เจีย เวอร์จิเนีย และหลุยส์เซียนา มีผู้เสียชีวิตรวมกันอย่างน้อย 101 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมใน 6 รัฐจนถึงปัจจุบันเพิ่มเป็น 324 คน มากที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา ซึ่งในปีนั้นเกิดเหตุการณ์พายุทอร์นาโดพัดถล่มพื้นที่ภาคใต้ของสหรัฐฯ
บริษัทอีเควแคท (EQECAT) ซึ่งจำลองมูลค่าความเสียหายของหายนะภัยครั้งนี้ กล่าวว่า พายุทอร์นาโดสร้างความเสียหายที่จะทำให้บริษัทประกันต้องชดใช้เงินประมาณ 2,000-5,000 ล้านดอลลาร์ (60,000-150,000 ล้านบาท)