สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ว่า กองกำลังซีเรียยังคงเดินหน้าปราบปรามประชาชนชาวซีเรียต่อเนื่องโดยเมื่อวันเสาร์ กองกำลังได้ยิงกระสุนใส่ประชาชนซึ่งเข้าร่วมการแห่ศพผู้เสียชีวิตชาวซีเรีย ที่มีผู้คนกว่าหลายหมื่นคน ส่งผลให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังของกำลังซีเรีย ได้เพิ่มขึ้น 120 ศพ ภายหลังจากปฎิบัติการสลายการชุมนุมที่รุนแรงเมื่อวันศุกร์ ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 112 ราย โดยหัวหน้าหน่วยงานสิทธิมนุษยชนซีเรีย กล่าวว่า เหตุรุนแรงเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 112 คน และวันเสาร์เพิ่มขึ้นอีก 11 ราย โดยเหตุการณ์ปราบปรามในวันศุกร์ที่ผ่านมาถือเป็นวันนองเลือดที่สุดของประเทศ โดยกองกำลังรัฐบาลโจมตีผู้ประท้วงด้วยกระสุนปืน แก๊สน้ำตา
เหตุการณ์ดังกล่าวยังส่งให้นักการเมืองซีเรีย 2 ราย และผู้นำศาสนาหลายคน ประกาศลาออก เพราะไม่พอใจต่อกรณีทางการซีเรียที่ใช้กำลังสังหารประชาชน โดยนายนาสเซอร์ ฮารีรี นักการเมืองหนึ่งในผู้ลาออก กล่าวด้วยความสลดว่า เขาไม่อาจอดกลั้นต่อการเห็นเลือดผู้บริสุทธิ์ต้องหลั่งรินต่อไปอีกได้ และว่า ถ้าเขาไม่สามารถคุ้มครองปกป้องประชาชนจากการโจมตีของกองกำลังรัฐบาลซีเรีย มันไม่มีความหมายอะไรที่เขาจะอยู่ในสภาประชาชนอีก และเขาขอประกาศลาออก
การปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัดซัด ได้ประกาศเตือนว่า หากประชาชนยังคงเดินหน้าประท้วงต่อไป จะถือเป็นการบ่อนทำลายประเทศชาติ หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉินที่บังคับใช้มายาวนานไปแล้ว
ด้านประชาชนรายหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงเมื่อวันศุกร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กองกำลังซีเรียได้แฝงตัวในหมู่ฝูงชนทุกหนแห่ง แม้แต่ปลอมเป็นคนเก็บขยะ บุคคลที่มีโทรศัพท์ก็ถูกตรวจสอบ เหมือนเราอยู่ในนรก ส่วนชายอีกรายบอกว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบต่างแฝงตัวอยู่ในหมู่ประชาชน และมีการใส่สร้อยคอสีส้มเป็นสัญญลักษณ์เพื่อให้กองกำลังซีเรียไม่เข้าใจผิด