2ตายายวัยกว่า80 ขี่เกวียนอายุ100ปี

เกวียน ถือเป็นพาหนะที่คนโบราณนิยมใช้เดินทาง แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน คนใช้เกวียนถือว่าแปลก

แต่ที่โคราชยังมี 2 สามีวัยชรา ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ยังคงใช้ชีวิตแบบสมัยโบราณ เดินทางไปไหนมาไหนด้วยเกวียน

จึงเดินทางไปตรวจสอบความจริงที่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 3 บ้านหัวสิบ ต.บ้านใหม่ พบชายชราคนดังกล่าวทราบชื่อว่านายลอย ขันโคกกรวด อายุ 78 ปี เจ้าของบ้านซึ่งพักอาศัยอยู่กับนางลอย ขันโคกกรวด อายุ 73 ปี

แทบงงครับทั่น เมื่อสองสามีภรรยาคู่นี้มีชื่อและนามสกุลเหมือนกันอีก

สองคนอยู่ในบ้านที่พักพิงเป็นไม้ 2 ชั้นแบบโบราณสภาพเก่ามาก ใต้ถุนบ้านล้อมด้วยไม้ไผ่ทำเป็นคอกวัว บริเวณบ้านกว้างประมาณ 1 ไร่ มีกองฟางกองสูงอยู่หลังบ้าน มีวัว 2 ตัวที่ผูกสนตะพายไว้กับกองฟาง

ส่วนบริเวณรอบบ้านมีไก่พื้นบ้านกว่า 50 ตัว วิ่งหากินไปมา และมีแปลงพืชสมุนไพรพวกตะไคร้ ข่า กะเพรา ฯลฯ ปลูกไว้ข้างรั้วบ้านอีกหลายกอ

ขณะที่ใต้ต้นมะขามข้างบ้านมีเกวียนสมัยโบราณสภาพใช้งานได้จอดอยู่ 1 เล่ม

นายลอย ชายชราแห่งบ้านหัวสิบ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้อยู่กันลำพัง 2 คน ไม่มีลูกหลาน เพราะยายลอยมีปัญหามดลูก ปัจจุบันยังคงใช้เกวียนเดินทางไปไหนมาไหนเป็นประจำ เพราะชีวิตผูกพันกับเกวียนมาโดยตลอด เวลาขับเกวียนไปตามถนนคอนกรีตระหว่างหมู่บ้านก็มักมีคนขี่รถยนต์มาจอดขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกอยู่บ่อยครั้ง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องแปลกและน่าประทับใจ

ตาลอยเล่าให้ฟังอีกว่า เกวียนเล่มที่ใช้อยู่ก็เป็นมรดกตกทอดมาแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่มีอายุใช้งานกว่า 100 ปีมาแล้ว เกวียนทั้งเล่มทำจากไม้ประดู่ สภาพตอนนี้ก็ใช้งานได้ดี

ส่วนวัว 2 ตัวที่ใช้เทียมเกวียนเป็นวัวตัวผู้ ชื่อไอ้ตาลกับไอ้ตั้ง อายุมันมากกว่า 30 ปีแล้ว เวลาเทียมเกวียนก็จะใช้เชือกคล้องวัวผูกมัดกับแอกของเกวียนไว้บนบ่าวัวทั้ง 2 ตัว จากนั้นวัวก็จะใช้แรงลากเกวียนไปข้างหน้า จะสั่งให้มันวิ่งช้าวิ่งเร็ว เดินหน้าถอยหลัง เลี้ยงซ้ายเลี้ยวขวาก็ได้ ก็จะมีแส้ไว้สำหรับบังคับวัวให้เดินในทิศทางที่ต้องการได้

"ทุกวันนี้ตากับยายก็ใช้ชีวิตอยู่แบบพอเพียง เลี้ยงวัว 2 ตัว เลี้ยงไก่บ้าน ส่วนยายก็ปลูกผักสวนครัว พอมีอยู่มีกิน ไม่มีรายได้อย่างอื่น เพราะที่นาที่ไร่ก็ไม่มี จะไปทำงานรับจ้างก็ไม่ไหว มีบ้างเวลาชาวบ้านขนข้าวจากนาก็มาจ้างตาให้ขับเกวียนไปช่วยขนลากข้าวในนาที่เป็นโคลนตม รถอย่างอื่นเข้าไม่ถึง ก็มีรายได้ครั้งละ 300-400 บาท และก็มีรายได้เงินสงเคราะห์คนชราเดือนละ 300 บาท"

คุณตาลอยเล่าอีกว่า สมัยนี้ข้าวของอะไรๆ ก็แพง ตากับยายก็มีชีวิตอยู่แบบนี้แบบพอเพียง เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านคนอื่นๆ เขาหาเงินหาทองมาซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ซื้อรถยนต์ขับขี่สะดวกสบายตาก็ไม่อิจฉาเขาหรอก ขี่รถพวกนั้นก็ต้องเปลืองเงินไปเติมน้ำมัน ยิ่งตอนนี้น้ำมันแพงก็ยิ่งลำบาก สู้ขี่เกวียนไม่ได้ ไม่ต้องเติมน้ำมันก็ไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย

ถึงแม้จะชราแต่ความคิดทันสมัยจริงๆ