Good Bye นัมเบอร์วันไทยลีก ซูมาโฮโร ยาย่า

undefined

เป็นอีกเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งสำหรับวงการลูกหนังไทย ที่จะไม่ได้เห็นนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีอย่าง"ซูมาโฮโร ยาย่า" ซูเปอร์สตาร์อันดับต้นๆของ "กิเลนผยอง" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เพราะหลังจากนี้ ชื่อของนักเตะวัย 20 ปี จากไอวอรีโคสต์ จะเป็นเพียงตำนานของวงการฟุตบอลไทย...

โดยเฉพาะการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก ที่จะไม่เห็นเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญ เจ้าของเบอร์เสื้อ "หมายเลข 24" ของทีมเมืองทองฯ ลงสนามอีกต่อไปแล้ว เพราะ "ยาย่า" ตัดสินใจย้ายฟ้าผ่า บินร่วมทัพ "เคเอเอ เกนท์" รองแชมป์ลีกสูงสุดของเบลเยียม ด้วยการทุบสถิติค่าตัวที่มากถึง 20 ล้านบาท อีกทั้งยังได้มีโอกาสลงเล่นในศึก ยูโร ปา ลีก อีกด้วย

ด้านนายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา หรือเสี่ยเป้ ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เปิดเผยกับ "ไทยรัฐออนไลน์" ว่า "ซูมาโฮโร ยาย่า" ถือเป็นความมหัศจรรย์ของวงการฟุตบอลไทย เพราะเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดเท่าที่ไทยลีกเคยมีมาเลยก็ว่าได้ ด้วยอายุเพียง 17 ปี เขาก็สามารถเริ่มพิสูจน์ให้สโมสรได้เห็นถึงความสามารถและทักษะการเล่นฟุตบอลของตัวเขา ทางสโมสรจึงได้ดึงตัวเขาตั้งแต่ยังเล่นอยู่ในลีกดิวิชั่น 1 ซึ่งทางสโมสรเปรียบ "ยาย่าเหมือนกับเพชรเม็ดหนึ่งที่พร้อมจะเจียระไนให้สวยงาม"

เสี่ยเป้ เล่าย้อนไปว่า สมัยที่ "ยาย่า" เข้ามาเล่นให้กับทีมแรกๆ นั้น จะได้ลงแข่งขันน้อยมาก เนื่องจากตัวเขามักจะมีปัญหาเรื่องเจ้าอารมณ์ เวลาลงแข่งขันแต่ละครั้งก็จะต้องโดนตักเตือนบ้าง ใบเหลืองบ้าง และใบแดง สม่ำเสมอ ซึ่งทางสโมสรก็พยายามพัฒนา "ยาย่า" และเลี้ยงดูเขาให้เหมือนกับว่าเขาเป็นคนในครอบครัว ค่อยๆ พัฒนาทักษะ ทั้งทางการเล่นฟุตบอล ทักษะทางด้านจิตใจและอารมณ์ จนในที่สุด ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน "ยาย่า" ลงสนามแข่งขันแทบทุกเกม จนนึกไม่ออกว่ามีนัดใดบ้างที่ไม่มีนักเตะคนนี้เท้าไม่ได้แตะพื้นสนาม

"ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน บวกกับอายุก็เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม วัยเพียงแค่ 20 ปี เป็นผู้เล่นด้านซ้าย มีความเร็ว และแข็งแกร่ง พร้อมเสมอกับการผ่านบอลและยิงประตูได้ดี ปรับตัวเข้ากับเกม และสภาพแวดล้อมได้ตลอด  จนกระทั่งความสามารถของเขาไปเตะตาแมวมอง และนับเป็นครั้งแรกที่มีแมวมองบินมาดูนักเตะไทยในระดับฟุตบอลสโมสรถึง 3 ครั้ง ปกติแล้วเรามีแต่จะต้องส่งนักเตะออกไปอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งหมดนี้เท่ากับว่า "ยาย่า" ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพว่า นักฟุตบอลจากลีกในประเทศไทยมีคุณภาพมากแค่ไหน ซึ่งถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังไทยอย่างมาก"

ผู้จัดการทั่วไปทีมเมืองทองฯ ระบุอีกว่า นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จของสโมสรเมืองทองฯ ที่ได้มีโอกาสปั้นและขัดเกลาฝีไม้ลายเท้าเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ที่เริ่มเติบโตจากเจเอ็มจี อะคาเดมี ในประเทศไอวอรีโคสต์ แล้วนำมาปลุกปั้นให้เป็นที่โด่งดังในประเทศไทย ในฐานะตัวแทนของสโมสร รู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้วงการลูกหนังไทยพรีเมียร์ลีกเติบโตขึ้น และประสบความสำเร็จขั้นหนึ่ง เพราะ "ยาย่า" เป็นนักเตะที่แฟนบอลชาวไทยยอมเสียเงินค่าตั๋ว เพื่อมาดูการเล่นของเจ้าหนูมหัศจรรย์รายนี้แบบล้นสนามเกือบทุกครั้ง

"เป้าหมายของเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ไม่ได้หยุดเพียงแค่การขึ้นเป็นแถวหน้าของวงการฟุตบอลไทยลีกเพียงเท่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องการเป็นหนึ่งในทีมระดับแถวหน้าของเอเชีย ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการมากที่สุดคือ การยกระดับตัวนักเตะให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปมากกว่านี้ ซึ่ง "ยาย่า" ก็เป็นนักเตะคนหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นแล้ว

แฟนๆ ลูกหนังของทีมอุลตราเมืองทอง ยังมีโอกาสที่จะได้ชื่นชมในสปิริตและความสามารถของ "ซูมาโฮโร ยาย่า" ได้อีกหนึ่งครั้ง ในแมตซ์การแข่งขันที่เรียกได้ว่าเป็นคู่บิ๊กแมตซ์เลยก็ว่าได้ ระหว่าง "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ที่จะไปเยือน "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ในวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.นี้ เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมสำคัญ และลุ้นด้วยว่าในอนาคตทีมใดจะอยู่ในอันดับหนึ่งของตาราง และคว้าถ้วยแชมป์ไปครอบครอง รวมทั้งแมตซ์นี้ยังเป็นการสวมเสื้อ "กิเลนผยอง" เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ครั้งสุดท้าย ของ "ซูมาโฮโร ยาย่า" อีกด้วย

สำหรับแฟนๆ คนใดที่ยังคิดถึงและอยากใกล้ชิดกับ "ซูมาโฮโร ยาย่า" เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขอเอาใจแฟนบอลอีกครั้ง ด้วยการเตรียมจัด Meet & Greet ซูมาโฮโร ยาย่า พร้อมกลุ่มเพื่อนนักเตะเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่  29 ก.ค.นี้ เวลา 17.00-20.00 น. ที่ห้อง Club Lounge ของสโมสร ก่อนที่จะต้องบินตรงสู่ประเทศเบลเยียม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์