นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แถลงที่พรรคเพื่อไทย(พท.)
ที่นายกฯเดินหน้าแผนสร้างความปรองดองโดยแต่งตั้งนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธานกรรมการปฎิรูปการเมืองนั้นไม่เหมาะสม เพราะเป็นกองเชียร์พรรค ปชป. ชัดเจน โดยนายสมบัติแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเอียงกะเท่เร่ไปทางพรรค ปชป.
" ที่รัฐบาลบอกจะปรองดอง 5 ข้อตอนนี้ไม่พอ เราต้องเจรจาสันติภาพ(Peace Talk) เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน โดยเชิญให้ทุกสีไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง แดง ชมพู กลุ่มพันธมิตรประชาขนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ฝ่ายค้าน รัฐบาล นักธุรกิจ นักวิชาการ เอ็นจีโอ มาประชุมร่วมกันระดับชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาประเทศ ก่อนหน้านี้นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯและนพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เสนอให้โอบอุ้มทุกฝ่าย เข้าสู่การเจรจาร่วมกัน รวมถึงม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. บอกว่าถ้าจะปรองดองแต่ไม่คุยกับพ.ต.ท.ทักษิณมันจะเดินหน้าไปได้อย่างไร ดังนั้น คิดว่านายกฯจะดำเนินการตามแผน 5 ข้อเพียงลำพังนั้นไม่สำเร็จ แม้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นแต่บ้านเมืองจะไม่สงบถ้าทุกฝ่ายไม่มาร่วมกัน " นายนพดลกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเจรจาสันติภาพป็นแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของตน
ยอมรับว่าหารือกับอดีตนายกฯด้วย แต่ไม่ใช่แนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ เพราะถ้าเป็นแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ นายอภิสิทธิ์ก็จะตอบทันทีว่าไม่เอา ขณะนี้อดีตนายกฯทักษิณสบายดี กำลังให้สัมภาษณ์สื่อชั้นนำหลายประเทศ ขอให้สบายใจว่าจะไม่ทำร้ายประเทศไทย เป็นการให้ข้อเท็จจริงและเป็นการปกป้องสิทธิของท่าน
“ บทความล่าสุดของนิวส์วีคบอกว่าแบรนด์ของไทยกำลังสูญเสียจากการที่เคยเป็นศูนย์รวมของเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่และเป็นแม่แบบของเอเซียอาคเนย์ ตั้งแต่ 2549 มันเละเทะมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นอดีตนายกฯคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องคุยและหาทางออกร่วมกัน ท่านพร้อม อย่างน้อยมันต้องมาคุยกัน อย่าเพิ่งเอาเงื่อนไขมาคุยกัน มาคุยโดยไม่มีเงื่อนไข มาด้วยมือที่สะอาด มามือเปล่าและมาคุยกัน ให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณา ” นายนพดลกล่าว
" ถ้ารัฐบาลคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณ ดีๆ เชื่อว่าแผนปรองดองจะไปได้ ถ้ามีการปรองดองจริงพ.ต.ท.ทักษิณก็เอาด้วย แต่ต้องถามว่าแผน 5 ข้อของรัฐบาลปรองดองจริงหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องการปิดสื่อคนอื่น แต่เปิดสื่อของตัวเอง " นายนพดลกล่าว
นายนพดลกล่าวว่า หลังรัฐบาลส่งหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีก่อร้ายไปร้อยกว่าประเทศทั่วโลกเพื่อหวังให้พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปประเทศอื่นๆ ยากลำบาก
ปรากฎว่าไม่ได้เป็นไปตามนั้น เนื่องจากผู้นำนานาประเทศ สื่อมวลชนชั้นนำ และสังคมระหว่างประเทศเข้าใจว่าเป็นเรื่องของการเมือง เลยเพิกเฉยไม่สนใจต่อหมายจับดังกล่าว “ การที่รัฐบาลจะไปไล่บี้ประเทศบูรไน ให้ระวังให้ดี แม้ว่าบูรไนเป็นประเทศเล็ก แต่มีเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลกกับนักลงทุนต่างๆ ดังนั้นอย่าไปทำอะไรที่ซุ่มซ่าม อย่าคิดว่าตัวเองมีอำนาจและไปใช้ข่มขู่คนอื่นเหมือนทำกับคนไทยในประเทศ รัฐบาลยังคิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นอุปสรรคต่อการปรองดอง แสดงให้เห็นได้ว่ารัฐบาลยังมีทัศนคติที่อันตรายต่อพ.ต.ท.ทักษิณ มุ่งขจัดพ.ต.ท.ทักษิณ ” นายนพดลกล่าว
นายนพดล กล่าวว่า วันนี้ไม่มีใครทำหน้าที่ไล่ล่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ดีเท่านายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เหตุนี้รัฐบาลเลยไม่ปรับนายกษิตออกจากตำแหน่ง ภารกิจของนายกษิตไม่มีอะไรนอกจากใช้เครื่องมือ และงบประมาณแผ่นดิน ไล่ล่าคู่แข่งทางการเมือง ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณต้องตั้งทนายความต่างชาติเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงในประเทศไทย และป้องกันตัวเองในการถูกข้อกล่าวหาจากรัฐบาล แต่ไม่ได้ตั้งทนายขึ้นเพื่อทำลายประเทศ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ รักประเทศไทย แต่ไม่รักรัฐบาลชุดนี้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
