พบบ้านพิลึก ไฟไหม้นับสิบรอบ

สุดพิลึกลือบ้านอาถรรพ์ เกิดไฟไหม้ขึ้นเองนับสิบๆครั้งในเวลาแค่เดือนเดียว

เจ้าของเพื่อนบ้านผวาไปตามๆกัน เผยเกิดครั้งแรกกับทีวีสี จากนั้นก็เริ่มมีไฟไหม้ทรัพย์สินต่างๆ ทั้งตู้เสื้อผ้า ที่นอน หมอน มุ้ง กระทั่ง ฝาบ้าน เพื่อนบ้านเคยมาร่วมพิสูจน์แทบช็อก จู่ๆเห็นไฟไหม้ผ้าห่ม และมีบางคนมาเฝ้าดูก็เกิดไฟไหม้ตู้เสื้อผ้า ทั้งๆที่ไม่มีคนอยู่ในบ้าน และล็อกประตูตู้เอาไว้ด้วย แม้จะนิมนต์ พระยันหมอผีมาทำพิธีก็ไม่ได้ผล เผยหน้าบ้านมีต้นไทรใหญ่อายุนับร้อยปี เพื่อนบ้านผวาแทบไม่กล้าแวะเวียนมาเยี่ยม วอนผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์หาสาเหตุลึกลับ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ว่าเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นกับบ้านเลขที่ 167 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี

ซึ่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ทรัพย์สินภายในบ้านนับสิบๆ ครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเดินทางไปพิสูจน์ เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่บนที่โล่งห่างออกไปด้านข้างประมาณ 200 เมตรมีสระน้ำ และที่เป็นจุดสนใจและยิ่งสร้างความเชื่อในเรื่องของสิ่งเร้นลับแก่ชาวบ้านมากที่สุดก็คือต้น ไทรขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปีตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว

นางนิด รวมครบุรี อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านซึ่งอาศัยอยู่กับลูกๆ และหลานสาว รวม 5 ชีวิต เปิดเผยว่า เกิดเหตุประหลาดขึ้นในบ้านจริง

โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ราวๆ 8 โมงเช้าจู่ๆ เกิดไฟไหม้ทีวี ตอนแรก ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าไฟชอร์ต แต่จากนั้นอีก 3 วันไฟก็ไหม้ภายในตู้เสื้อผ้า โดยไม่ทราบสาเหตุอีกเช่นเดียวกัน เจ้าของบ้านสาวเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอีกว่า จากนั้นก็เกิดเหตุไฟไหม้ทรัพย์สินต่างๆ ทั้งที่นอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า ผนังบ้าน หรือแม้แต่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านนอก แต่โชคดีที่ทุกครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ตน และเพื่อนบ้านใกล้เคียงจะสังเกตเห็นและสามารถช่วยกันดับไฟไว้ได้อย่างทันท่วงที หรือแจ้งหน่วยกู้ภัยมาช่วยเหลือ ทำให้ไม่เกิดลุกลามและสร้างความเสียหายมากนัก อย่างไรก็ตามเหตุเพลิงไหม้ปริศนานี้ได้สร้างความหวาดผวาให้แก่คนในครอบครัวและเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ส่งผลให้ ด.ช.พีรกร ยศพังเทียม หรือน้องทาย อายุ 8 ขวบ ได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้บริเวณหัวเข่า ด.ญ.กัญญารัตน์ ยศพังเทียม หรือน้องปอ อายุ 7 ขวบ ถูกไฟลวกที่แขนซ้าย และด.ช. ภูวนาถ รวมครบุรี หรือน้องกล้วย อายุ 6 ขวบ ได้รับบาดเจ็บไฟลวกที่บริเวณรอบๆ สะดือ ซึ่งอาการบาดเจ็บของเด็กน้อยทั้ง 3 คนเกิดจากการถูกสะเก็ดไฟ โดยเหตุการณ์ไฟลุกไหม้โดยไม่ทราบสาเหตุ" นางนิดเล่า ว่า หลังเกิดไฟไหม้ติดต่อกันหลายครั้งจึงตัด สินใจนิมนต์พระสงฆ์ ฤๅษี หรือแม้กระทั่งหมอผี มาทำพิธีสวดเพื่อปัดรังควาน แต่เหตุการณ์ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ ล่าสุดไฟก็ได้ลุกไหม้ขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตู้เสื้อผ้า และที่นอนได้รับความเสียหายทั้งหมด

"ตอนนี้จนปัญญาไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว อยากให้ใครสักคนช่วยมาตรวจสอบหาสาเหตุ ที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของวิทยาศาสตร์หรือในแง่ของไสยศาสตร์เพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นซ้ำๆ อีก เพราะทุกวันนี้อาศัยอยู่ในบ้านอย่างหวาดผวา รวมไปถึงเพื่อนบ้านก็พลอยกลัวแทบไม่กล้ามาคบ ค้าสมาคมด้วย" นางนิดกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า

ด้านนางลือเลื่อง สอนศิลป์ อายุ 49 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า เคยเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เป็นไฟลุกไหม้ผ้าห่มโดยไม่ทราบสาเหตุ

นอกจากนี้ด้วยความสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีชาวบ้านบางส่วนท้าทายให้สิ่งที่ทำให้เกิดไฟไหม้บันดาลให้เกิดไฟไหม้ให้ทุกคนเห็น แล้วไฟก็เกิดลุกไหม้จริงๆ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะท้าทาย และยิ่งเพิ่มความเชื่อให้กับชาวบ้านว่าบ้านหลังนี้ถูกสิ่งเร้นลับเล่นงานอยู่

ในส่วนของตำรวจและหน่วยกู้ภัยที่รับแจ้งและเดินทางมาตรวจสอบ ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุเกิดจากอะไร เพราะคนในบ้านยืนยันว่าไม่มีใครเล่นไฟ หรือจุดไฟเพื่อสร้างสถานการณ์ขึ้น

นายเฉียบ เจนประคำ อาสาสมัครตำรวจบ้าน กล่าวว่า เคยได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในบ้านหลังนี้มาหลายสิบครั้งและทุกครั้งที่เข้ามาตรวจสอบก็ยังไม่ทราบสาเหตุ ว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร จนต้องจัดกำลังมาเฝ้าดูที่บ้านหลังนี้ และก็พบว่าไฟเกิด ลุกไหม้ขึ้นเอง และไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัด วงจรเพราะระบบไฟฟ้าทุกอย่างยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก และหากจะโทษว่าเด็กหรือใครคนใดคนหนึ่งทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นก็ไม่สามารถอ้างได้ เพราะที่เคยเห็นกับตาก็คือเกิดเพลิงไหม้ขึ้นในตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน ซึ่งถูกล็อกเอาไว้ และที่สำคัญวันที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ไม่มีคนหรือสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในบ้านแม้คนเดียว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์รุจิรา อุปวานิช คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนคร ราชสีมา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หากจะมองในด้านวิทยาศาสตร์ก่อนจะเกิดเพลิงไหม้ได้ต้องมีสิ่งที่เป็นเชื้อไฟ

และสิ่งที่จะทำให้เกิดเพลิงอย่างเช่น ไฟฟ้า แสงแดด หรือ สิ่งที่ทำให้เกิดความร้อน หรือสารเคมีบางอย่าง นอกจากนี้สาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ที่อาจจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เกิดการสันดาป กับอิเล็กตรอน และเกิดปฏิกิริยาว่องไวต่อแสง จึงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ อย่างเช่นหัวมันเทศ ซึ่งสามารถสะสมความร้อน จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ได้

"ในทางวิทยาศาสตร์สามารถสรุปได้ว่า การเกิดเหตุเพลิงไหม้จะต้องมีวัตถุดิบกับสิ่งที่ทำให้เกิด มารวมกันจึงจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้ โดยมีออกซิเจนเข้าไปเป็นสื่อ เพราะ ออกซิเจนจะเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาป ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ทั้งนี้ หากจะให้แน่ชัดจริงๆ จะต้องตรวจพิสูจน์ร่องรอยการเกิดเพลิงไหม้จากสถานที่จริงอีกครั้ง ส่วนความเชื่อทางด้านไสยศาสตร์นั้นก็ควรจะใช้วิจารณ ญาณว่าควรเชื่อหรือไม่" ผู้ช่วยศาสตราจารย์รุจิรากล่าว


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์