พบปืนโบราณอายุ 190 ปี

พบปืนใหญ่โบราณสมัยรัชกาลที่ 2 อายุราว 190 ปี ถูกฝังอยู่ใต้ดินบริเวณป้อมปืนเพชรหึง นครเขื่อนขันธ์ ที่ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ จนตัวกำแพงเก่าพังลงสู่ลำคลอง ผกก.สภ.อ.พระประแดง ระบุ เป็นปืนแบบเดียวกับที่พบในจันทบุรี และสมุทรสงคราม

คนงานก่อสร้างสะพานแขวนวงแหวนรอบนอก โครงการพระราชดำริ พบปืนใหญ่โบราณอายุราว 190 ปี ในครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 กันยายน พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธ์ ผกก.สภ.อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากนายเอนก วันทอง อายุ 30 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 24 หมู่ 5 ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ว่า ขณะกำลังใช้รถแบ็คโฮทำการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณหัวลอใกล้กับคลองลัดโพธิ์ ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง ซึ่งกำลังมีการก่อสร้างสะพานแขวนวงแหวนรอบนอก โครงการพระราชดำริ ได้พบกับวัตถุขนาดใหญ่ ต่อมาทราบว่าเป็นปืนใหญ่สมัยโบราณ หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อไปถึงพบวัตถุขนาดใหญ่ ถูกวางไว้ใกล้กับรถแบ็คโฮ มีดินสีแดงเกาะติดอย่างแน่นหนา จากการสอบถามนายเอนก ทราบว่า ขณะที่กำลังใช้รถแบ็คโฮตักดินเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ ได้ไปกระทบกับวัสดุบางอย่าง ซึ่งมีลักษณะแข็งและใหญ่ จึงใช้รถดึงวัตถุดังกล่าวขึ้นมา พร้อมกับให้คนงานเข้าไปดูวัตถุดังกล่าวว่าเป็นอะไร เมื่อลงไปสำรวจก็พบก้อนดินแดงขนาดใหญ่ จากนั้นจึงให้คนงานช่วยกันนำน้ำมาทำความสะอาด จนกระทั่งทราบว่า เป็นแท่งเหล็กกลมยาว และมีหูเหล็ก คล้ายกับปืนใหญ่โบราณ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับทราบในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธ์ ผกก.สภ.อ.พระประแดง กล่าวว่า จากการตรวจสอบวัตถุที่พบ ทราบว่าเป็นปืนใหญ่สมัยโบราณ โดยที่บริเวณปลายลำกล้อง มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 20 เซนติเมตร ด้านโคนลำกล้องปืน มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 39 เซนติเมตร มีความยาวจากปลายถึงโคนวัดได้ 1.29 เมตร อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจสอบได้ให้รถแบ็คโฮยกปืนใหญ่โบราณ ใส่รถบรรทุกสิบล้อ เพื่อนำไปเก็บไว้บริเวณด้านหน้า สภ.อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และได้แจ้งไปยังสำนักงานศิลปากรที่ 1 จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ให้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบแล้ว

"ก่อนหน้านี้ เคยมีชาวบ้านขุดพบปืนโบราณลักษณะเดียวกันมาแล้ว 2 กระบอก นอกจากนี้ในบริเวณดังกล่าว ยังมีการขุดพบโอ่ง และชิ้นส่วนต่างๆ ของโบราณอีกเป็นจำนวนมาก คาดว่าปืนโบราณที่ขุดพบ จะมีอายุราว 190 ปี เพราะลักษณะพื้นที่ที่พบเป็นกำแพงเมืองเก่า ในช่วงที่มีการก่อสร้างเมืองพระประแดงแห่งนี้ โดยบริเวณแถบนี้ ชาวบ้านมักเรียกกันว่า ป้อมเมืองนครเขื่อนขันธ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2" ผกก.สภ.อ.พระประแดง กล่าว

พ.ต.อ.นครพัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบทางประวัติศาสตร์ พบว่า บริเวณปากคลองลัดโพธิ์ ซึ่งเป็นสถานที่พบปืน โอ่ง และไหโบราณ เป็นป้อมปืนโบราณ ซึ่งชาวบ้านมักเรียกว่าป้อมปืนเพชรหึง สร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 2 ตอนปลาย โดยโปรดเกล้าฯ ให้พระยาเจ่ง และพระยาราม ซึ่งเป็นชาวมอญ มาช่วยกันสร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์ ดังนั้น ชิ้นส่วนโบราณที่พบ ไม่ว่าจะเป็นปืน ชาม หรือเครื่องปั้นดินเผา ส่วนใหญ่จะเป็นของชาวจีนและชาวยุโรป ที่มีการค้าขายกันทางเรือเมื่อช่วง 190 ปีที่ผ่านมา

"จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณที่มีการขุดพบปืน หรือสิ่งของโบราณ มักจะสร้างขึ้นด้วยอิฐแดง โดยหินแต่ละก้อนจะมีขนาดใหญ่ เนื่องจากต้องนำมาสร้างเป็นกำแพงเมือง สำหรับปืนใหญ่ที่พบ มีรูปทรงเหมือนปืนที่พบในค่ายเนินวง จ.จันทบุรี และป้อมปืนพิฆาต ใน จ.สมุทรสงคราม"

ผกก.สภ.อ.พระประแดง กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ได้นำปืนโบราณที่พบ มาเก็บไว้ที่บริเวณด้านหน้า สภ.อ.พระประแดง รวมกับปืนโบราณที่พบมาก่อนหน้านี้อีก 2 กระบอกแล้ว จากนั้นจะนำไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่กำลังจะก่อสร้างขึ้นที่บริเวณสะพานแขวน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมต่อไป

ขณะที่นายเจียม ขันทอง อายุ 68 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในบริเวณที่พบปืนโบราณ กล่าวว่า จากคำบอกเล่าของบิดา ทราบว่า พื้นที่ที่พบปืน เป็นกำแพงเมืองนครเขื่อนขันธ์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะที่สร้างเมือง ได้มีการเกณฑ์ชาวมอญมาจากเมืองปทุมธานี พร้อมกับนำปืนใหญ่ มาติดตั้งเอาไว้ด้วย เพื่อต่อสู้กับพวกข้าศึก โดยกำแพงเมืองเดิมเป็นกำแพงยาวหลายร้อยเมตร หลังจากเวลาผ่านไปร้อยกว่าปี กำแพงเมืองเดิมจึงถูกน้ำกัดเซาะและจมลงไปในคลองลัดโพธิ์ดังกล่าว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก