เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ชาวบ้านใน ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรม ราช พากันแตกตื่นแห่ไปดูศพเด็กทารกแรกเกิดมีสภาพแปลกประหลาด
คือไม่มีศีรษะ ไม่มีแขน ญาตินำมาใส่ในตู้กระจกเลี้ยงปลา ทราบว่าอยู่ที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 5 ต.ควนพัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบศพทารกเพศหญิงอยู่ในลักษณะท่านั่ง ไม่มีศีรษะ ไม่มีแขน มีเฉพาะลำตัวและขา 2 ข้าง น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม นอกจากนี้เท้าทั้ง 2 ข้างมีนิ้วเพียงข้างละ 3 นิ้ว ส่วนด้านบนสุดของลำตัวมีเนื้อยื่นออกมาเล็กน้อยและมีเส้นผมงอกออกมาจำนวนหนึ่ง และในตู้เลี้ยงปลาที่ใช้บรรจุศพทารก มีขวดนม ผ้าอ้อม และอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเด็กทารกอยู่ภายใน มีชาวบ้านทราบข่าวเดินทางมาดูและจุดธูปเทียนบูชา ใส่เงินในตู้ ยกมือไหว้ขอโชคลาภ
นางปัญญา สังข์ศิริ อายุ 47 ปี กล่าวว่า ศพเด็กทารกดังกล่าวเป็นลูกแฝดของนายสุพัฒน์ สังข์ศิริ อายุ 32 ปี กับนางสายใจ ศรีรักษา อายุ 30 ปี
สองผัวเมียซึ่งเป็นหลานชายและหลานสะใภ้ของตนเอง ทารกดังกล่าวคลอดเมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกันนี้ที่โรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ เป็นหนึ่งในแฝดผู้หญิง โดยคนแรกคลอดออกมาปกติสมบูรณ์ทุกอย่าง น้ำหนักตัว 1.8 กิโลกรัม แต่คนที่ 2 คลอดออกมามีความแปลกประหลาด แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว
นางปัญญา กล่าวต่อว่า นางสายใจฝากครรภ์ไว้ที่ร.พ.ร่อนพิบูลย์ และได้ไปพบแพทย์อย่างต่อเนื่องระหว่างตั้งครรภ์
ตรวจอัลตราซาวด์ถึง 5 ครั้ง ไม่พบอะไรผิดปกติ กระทั่งเช้าวันนี้นางสายใจเจ็บครรภ์ จึงส่งไปทำคลอดที่ร.พ.ร่อนพิ บูลย์ แต่หลังจากคลอดเด็กคนแรกแพทย์พบว่ายังมีก้อนแข็งๆ อยู่ในท้องอีก แพทย์จึงให้นางสายใจเบ่งอีกครั้งปรากฏว่าเด็กที่คลอดออกมาไม่มีศีรษะและแขน เสียชีวิตแล้ว ทางญาติจึงนำศพมาบำเพ็ญกุศล 5 คืน หากศพไม่เน่าก็จะเก็บไว้ แต่หากเน่าก็จะนำไปฝังต่อไป
ด้านน.พ.นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในทางวิชาการนั้นลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นลักษณะของแฝดไม่สมบูรณ์
อย่างไรก็ตามลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นแฝดที่มาจากไข่ใบเดียวกัน หรือไข่คนละใบ เนื่องจากไม่สามารถดูใบหน้าได้ โดยรวมคือความไม่สมบูรณ์ของการเจริญในครรภ์นั่นเอง ดังนั้น จะเห็นได้ว่าบ่อยครั้งที่เมื่อคลอดแฝดออกมา แฝดจะตัวเล็กกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว ลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่แปลกแต่ไม่ใช่พิสดาร เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ และถ้าเด็กไม่มีช่องหายใจจึงไม่สามารถอยู่ได้ แต่ที่มีสัญญาณชีพในครรภ์นั้นเกิดจากการดำรงอยู่ของมารดาผ่านทางสายสะดือ ทั้งอาหารและออกซิเจน