นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการหารือของสมาชิกในประเด็นปัญหาคำสั่งศาลปกครองกลางระงับการดำเนินโครงการ 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยองเป็นการชั่วคราวนั้น ทางเอกชนเห็นร่วมกันว่าในกลุ่มเอกชนที่ได้รับความเดือดร้อน จะยื่นขอทุเลาผลการบังคับใช้ด้วยตนเอง แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ถูกฟ้องก็ตาม เพราะตามคำฟ้องเป็นการฟ้อง 8 หน่วยงานรัฐ แต่เอกชนเป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเมื่อดูในแง่กฏหมายแล้ว พบว่าสามารถดำเนินการได้นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า การลงทุนในมาบตาพุดปัจจุบันได้ดำเนินการในหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าในอดีต เพราะหากจะลงทุนโครงการใหม่จะต้องลดมลพิษที่ปลดปล่อยออกมา โดยจะปล่อยได้ระดับร้อยละ 80 เท่านั้น โดยแผนนี้เป็นการกำหนดมาตั้งแต่ปี 2550 และทุกโรงงานมีเป้าหมายในการลดมลพิษที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมในระดับร้อยละ 20-30 เช่น ปตท.มีแผนลดระดับการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ใน 5 ปี ถึงร้อยละ 51 และลดปริมาณการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ร้อยละ 81 เมื่อมีการลดการปล่อยมลพิษลงไปแล้ว หากลดได้ร้อยละ 100 จะปล่อยมลพิษออกมาใหม่ได้ในระดับเพียงร้อยละ 80 เท่านั้น ดังนั้น เมื่อยิ่งขยายโรงงานระดับการปล่อยมลพิษยิ่งลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียง บางส่วนเป็นการลงทุนข้ามชาติขั้นตอนการลงทุนได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์อย่างเข้มงวด และดีกว่าข้อกำหนดของภาครัฐอีก“การลงทุน 76 โครงการ เม็ดเงินลงทุน 300,000 ล้านบาท มีทั้งโครงการที่ลงทุนเพื่อลดผลกระทบมลพิษโดยตรงและโครงการใหม่ที่จะต้องลงทุนและคืนความสะอาด ลดมลพิษของเดิม ซึ่งหากโครงการล่าช้า ก็เท่ากับว่าไม่ได้ช่วยชาวมาบตาพุดให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันไม่สามารถบอกได้ว่าชาวบ้านที่เกิดปัญหาสุขภาพเกิดจากโรงงานได้หรือไม่ เพราะสุขภาพชาวระยองไม่ได้แตกต่างจากคนกรุงเทพฯ ซึ่งก็อยากเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามาว่าจ้างหน่วยงานวิเคราะห์อย่างจริงจังจะได้เป้นข้อมูลอ้างอิงได้” รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวนอกจากนี้ ขอให้ภาครัฐสำรวจ 30 ชุมชนที่อยู่รอบนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดอย่างแท้จริงว่าเป็นอย่างไร และกำหนดหลักเกณฑ์ปฏิบัติตามมาตรา 67 ตามรัฐธรรมนูญ อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังต่อไป ก็จะกระทบต่อภาพรวมการลงทุน กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งคนระยองเองด้วยทั้งนี้ เมื่อเดือน เม.ย. 2552 ทางกลุ่มปิโตรเคมี ส.อ.ท. ออกมาระบุว่าโครงการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่ภาครัฐและเอกชนจัดทำแผน 5 ปี 2550-2554 วงเงิน 17,000 ล้านบาท เพื่อการจัดซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยลดปริมาณก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NOx) และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SOx) ที่เกิดจากการเผาไหม้ในโรงงานเพื่อให้ค่ามลพิษในอากาศลดลง พบว่า ล่าสุดรายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศจากกรมควบคุมมลพิษในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อเดือน ธ.ค. 2551 ดีขึ้นกว่าค่ามาตรฐาน โดยมีปริมาณก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์เฉลี่ย 1 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 6.0-63.0 ppb ซึ่งต่ำกว่าค่า มาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 170 ppb และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เฉลี่ย 1 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 2.0-258.0 ppb ซึ่งต่ำกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 300 ppb
เอกชนยืนยันจะยื่นทุเลาคดีมาบตาพุด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!