"ไอ้เฒ่ายาว" เจ้าบ่าววัย35 ปี ขนสินสอดผ้าแดง 2 ผืน วัว 1 ตัว ผลไม้ มอบให้เจ้าสาว "บินหลา" วัย 18 ปี เผยพบรักขณะออกหาของป่า หลังดูใจกันนาน 3 เดือน ตัดสินใจลั่นระฆังวิวาห์ ...
เรื่องราวของหนุ่มเงาะป่าซาไกตกหลุมรักสาวชนเผ่าเดียวกัน ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอโดยมีนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวแห่ไปร่วมงานแสดงความยินดีจำนวนมากครั้งนี้เปิดเผยเมื่อตอนสายวันที่ 24 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งมีพิธีแต่งงานของเงาะป่าซาไก ที่บริเวณป่าเหนืออ่างเก็บน้ำป่าบอน บ้านโหล๊ะหาร หมู่ 7 ต.ทุงนารีอ.ป่าบอน จ.พัทลุง จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบบริเวณป่าซึ่งสร้างเป็นเพิงพักชั่วคราว หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ทับเงาะ" มีนักท่องเที่ยวรวมทั้งชาวเงาะป่าซาไกที่อาศัยอยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัดแห่ไปร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกว่า 600 คน จนแน่นขนัดไปทั่วทั้งบริเวณ โดยเจ้าบ่าวทราบชื่อ "ไอ้เฒ่ายาว" อายุ 35 ปี เป็นเงาะป่าซาไกที่อาศัยอยู่บริเวณป่า เทือกเขาบรรทัดเขตพื้นที่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.พัทลุง ตรัง และสตูล ส่วนเจ้าสาวชื่อ "บินหลา" อายุ 18 ปี เป็นเงาะป่าซาไกที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาบรรทัดบริเวณป่าน้ำตกท่าช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง
สำหรับงานแต่งงานของเงาะป่าซาไกในครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเช้า โดยเริ่มจากการยกขบวนขันหมากของฝ่ายเจ้าบ่าวเดินทางไปสู่ขอเจ้าสาว มีนายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอป่าบอน ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ตัวแทนฝ่ายเจ้าบ่าว นำขบวนขันหมาก พร้อมขบวนกลองยาวเดินทางจาก อ.ป่าบอน ไปสู่ขอเจ้าสาว ที่ทับเงาะบ้านป่าพงศ์ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง โดยมีนายศักดิ์ชัย ชัยเชื้อ นายอำเภอตะโหมด ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่ ตัวแทนฝ่ายเจ้าสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น โดยเจ้าบ่าวซึ่งอยู่ในชุดนุ่งผ้าสีแดง ไม่สวมเสื้อ มีเพียงผ้าสไบสีแดงพาดเฉียง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่อยู่ตลอดเวลา ส่วนเจ้าสาวในชุดนุ่งผ้าสีแดง มีผ้าสีแดงพันรอบอกและพาดเฉียงด้วยผ้าสไบสีแดงเช่นกัน สีหน้ามีความสุขไม่แพ้กัน สำหรับสินสอดประกอบด้วยผ้าแดง 2 ผืน วัว 1 ตัว และผลไม้ หลังเสร็จพิธีสู่ขอเจ้าสาวตามพิธีของชาวเงาะป่าแล้ว ฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว พร้อมญาติผู้ใหญ่ แขกที่มาร่วมงาน ตลอดจนนักท่องเที่ยว ยกขบวนเดินทางด้วยรถยนต์ราว 30 คัน ไปที่เพิงพักชั่วคราวเหนืออ่างเก็บน้ำคลองป่าบอน ห่างกันประมาณ 3 กม. ซึ่งจัดไว้สำหรับเป็นสถานที่ฉลองวิวาห์
เมื่อคู่บ่าวสาวเดินทางไปถึง นายสานันท์ สุพรรณ–ชนะบุรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานงานฉลองวิวาห์ได้สวมมงกุฎดอกไม้ทำจากเถาวัลย์ ให้กับไอ้เฒ่ายาว เจ้าบ่าว และบินหลา เจ้าสาว พร้อมกับมอบผ้าแดง และมอบใบทะเบียนสมรส หรือที่ชนเผ่าซาไกเรียกว่า "ใบมะดอน" ให้กับคู่บ่าวสาวเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า ทั้งคู่ได้ทำพิธีแต่งงานกันแล้ว จากนั้นญาติผู้ใหญ่ของเงาะป่าซาไกทั้ง 2 ฝ่าย ทยอยเข้าอวยพรด้วยภาษาเงาะป่าประมาณ 15 นาที โดยไอ้เฒ่ายาว เจ้าบ่าว กล่าวว่า พบกับเจ้าสาวขณะออกหาของป่า หลังจากดูใจกันมาประมาณ 3 เดือน จึงตัดสินใจแต่งงาน ไม่คิดว่าคนเมืองจะจัดงานให้ใหญ่โตอย่างนี้ รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก จะขยันหมั่นเพียรในการทำมาหากินเพื่อคนที่รัก และจะไม่ทำให้ภรรยาลำบาก จะออกล่าสัตว์ หาของป่า ตักน้ำ และขุดมันมาคอยบริการภรรยา หลังแต่งงานแล้วจะไปครองรักกันที่ทับเงาะบนเทือกเขาบรรทัดต่อไป
ด้านนายสมนึก พรหมเขียว นายอำเภอป่าบอน จ.พัทลุง กล่าวว่า สำหรับไอ้เฒ่ายาว เจ้าบ่าว ที่เข้าพิธีวิวาห์ ในครั้งนี้ เป็นชาวเงาะป่าซาไกที่อาศัยอยู่ในป่าบนเทือกเขาบรรทัด บริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ส่วนเจ้าสาวคือบินหลา เป็นเงาะป่าซาไกกลุ่มที่อาศัยบริเวณป่าน้ำตกท่าช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง หลังจากที่ทาง อ.ป่าบอน และ อ.ตะโหมด ได้รับทราบความผูกพันของคนทั้งคู่ จึงได้จัดให้มีพิธีวิวาห์ในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ และเพื่อสร้างกระแสการอนุรักษ์ ผืนป่าบนเทือกเขาบรรทัดให้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่ที่หากินของเงาะป่าซาไกเหมือนในอดีต สำหรับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเงาะป่า หลังจากเข้าสู่พิธีวิวาห์ในวันนี้แล้ว ทั้งคู่จะเข้าหอกลางป่าในเขตจังหวัดสตูล เพื่อครองรัก และใช้ชีวิตร่วมกันตามประเพณีของเงาะป่าซาไกต่อไป