"สดศรี" รับเลือกตั้ง อบต.แข่งกันแรงขึ้น ขู่ลงดาบ กกต.จว.ที่บกพร่องในการทำงานไม่ดูแลพื้นที่อย่างเคร่งครัด เปรยให้ศาลรัฐธรรมนูญช่วยตีความขอบเขตอำนาจชี้ขาด ...
วันนี้ (7ก.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งมีปัญหาการทุจริตทั่วประเทศว่า เป็นเรื่องที่ กกต.คาดไว้อยู่แล้ว เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นมีการแข่งขันที่สูง และยิ่งการแข่งขันสูงความรุนแรงก็จะเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจาก กกต.จังหวัดไม่ยอมลงพื้นที่ทั้งๆ ที่เลือกตั้งท้องถิ่นเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อกกต. กลางมอบหมายแล้วก็ต้องลงพื้นที่ เพราะ กกต.กลางมีเพียง 5 คน จึงได้มอบหมายให้ไปทำหน้าที่แทน และ กกต.จังหวัดต้องตระหนักว่าช่วงการเลือกตั้งเป็นช่วงสำคัญ ภารกิจมีตลอด 24 ชั่วโมงไม่ใช่คิดว่าพอมี กกต.ท้องถิ่นแล้วก็ไม่ทำหน้าที่หา ก กกต. จังหวัดคนใดมีข้อบกพร่องในการทำงาน กกต.กลางจะต้องพิจารณาปรับเปลี่ยน
เมื่อถามว่าปริมาณเรื่องร้องเรียนที่มีเป็นจำนวนมาก จะทำให้ กกต.มีปัญหาในการประกาศผลหรือไม่ นางสดศรี ตอบว่า เราได้วางระบบการรับเรื่องร้องเรียน โดยให้กกต.จังหวัดเป็นผู้ทำสำนวน และสรุปก่อนเสนอ กกต.กลาง ทางจังหวัดก็ต้องทำงานอย่างหนัก ต้องเร่งประชุม อะไรรีบได้ก็รีบ ต้องเร่งตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะเชื่อได้ว่าการเลือกตั้งท้องถิ่น 2,939 แห่ง จำนวนเรื่องร้องเรียนจะต้องคูณ2คูณ3
"ที่เรากังวลคือเมื่อมีเรื่องร้องเรียนเราต้องวินิจฉัยจะมีการฟ้องไปที่ศาลปกครองให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ทำให้ กกต.ไม่สามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้ และจะส่งผลกระทบต่อการประชุมสภาท้องถิ่น และน่าจะเป็นปัญหา หากผู้สมัครแต่ละที่เลียนแบบกัน ทั้งนี้ถือเป็นอำนาจดุพินิจของศาลปกครอง เราจะไปก้าวล่วงไม่ได้ ทั้งนี้หากศาลปกครองรับเรื่อง แล้วก็น่าจะพิจารณาโดยเร็ว เพื่อวางบรรทัดฐาน" นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี กล่าวถึงกรณีที่13ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ถูก กกต.พิจารณาว่าขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นในกิจการสื่อหรือสัมปทานรัฐ จะยื่นเรื่องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ประธานสภาระงับการส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นเรื่องที่ทำตามกันมา เช่นกรณีที่16ส.ว.ทำมาก่อนและน่าจะเป็นเรื่องการป้องกันตนเอง ทั้งนี้ก็เป็นอำนาจของศาลในการพิจารณา ซึ่ง กกต.ได้ทำตามหน้าที่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เกิดจาก ส.ส.และส.วให้ร้องเรียนกันเอง กกต.ไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่อง ซึ่งต้องพิจารณาหากไม่ทำก็อาจจะโดนกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ อย่างไรก็ดี กกต.ได้เคยทำเรื่องชี้แจงไปยังศาลแล้วว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจ ตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่น่าอยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลปกครองแต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ท่าน โดยตนเห็นว่าน่าจะมีคนเสนอเรื่องนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ตีความขอบเขตอำนาจของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการเลือกตั้งนายก อบต.อย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา ประธาน กกต.ชัยนาท เผยว่า อบต.เขาแก้ว อ.สรรพยา นายอนุชา เกตุยา ได้ 1,711 คะแนน อ.หันคาอบต.หันคา นายปัญญา ไทยรัตนกุล ได้ 1,559 คะแนน อบต.วังไก่เถื่อน นายสีหนาท ศรีเสถียร ได้ 2,577 คะแนน อบต.ไพรนกยูง นางพรรณี จันทร์งาม ได้ 1,644 คะแนน อบต.เด่นใหญ่ นายประกอบ พึ่งพวก ได้ 2,034 คะแนน อ.มโนรมย์ อบต.วัดโคก นายสนอง ใจสุข ได้ 1065 คะแนน อบต.อู่ตะเภา นายชรินทร์ ภู่มั่ง ได้ 832 คะแนน อบต.คุ้งสำเภา นายประพันธ์ คำวิเศษ ได้ 936 คะแนน อบต.ท่าฉนวน นายนางพวงทิพย์ อุ่นโพธิ์ ได้ 1,886 คะแนน อบต.ไร่พัฒนา นายสำอาง นาคเมือง ได้ 1075คะแนน อ.วัดสิงห์ อบต.มะขามเฒ่า นานเดชพนต์ ไชยาพงศ์พิพัฒน์ 1,460 คะแนน อบต.หนองบัว นายรังสิวุฒิ อินทร์พรหม ได้ 726 คะแนน อบต.บ่อแร่ นายศักดา กริ่มเกิด ได้ 774 คะแนน อบต.วังหมัน นายออสอ จิตรจุน ได้ 1,427 คะแนน อ.หนองมะโมง นายสุทัศน์ วงษ์วานิช ได้ 2,405 คะแนน อ.เนินขาม อบต.สุขเดือนห้า นายบุญเลิศ การภักดี ได้ 1,853 คะแนน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
