ฮือฮาจิ้งจกสีแดง เมืองกรุงเก่า

วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าที่บ้านของนายบริบูรณ์ ธูปแก้ว อายุ 49 ปี

เลขที่ 7/1 หมู่ที่ 9 ต.สามตุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เลี้ยงจิ้งจกสีแดงทั้งตัวเอาไว้ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว และเนื่องจากเป็นวันหยุด จึงมีชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวจิ้งจกสีแดงต่างพากันเดินทางมาดูพิสูจน์กับตาตัวเอง โดยจิ้งจกตัวดังกล่าวมีสีแดงทั้งตัว ขนาดความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร นอกจากนี้นิ้วตีนทั้ง 4 ข้าง ยังแปลกประหลาดกว่าจิ้งจกทั่วไป ซึ่งปกติจะมีนิ้วตีนข้างละ 4 นิ้ว แต่จิ้งจกสีแดงดังกลาวมีนิ้วตีนข้างละ 5 นิ้ว เจ้าของบ้านจับใส่ไว้ในตู้ปลามีมุ้งลวดปิดคลุมไว้ นอกจากนี้บริเวณแผ่นกระจกด้านนอกตู้ ได้มีชาวบ้านนำแผ่นทองคำเปลวมาปิดไว้ บางรายนำผ้าแพร 3 สี และพวงมาลัยมาผูกไว้ที่หน้าตู้

น.ส.ยุวดี ธูปแก้ว อายุ 24 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านที่พบจิ้งจกสีแดงเป็นคนแรก เล่าว่า ตนพบจิ้งจกตัวนี้เมื่อเวลา ประมาณตี 3 ของวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา

เนื่องจากลูกสาวของตนชื่อน้องเอ๋ย หรือด.ญ.ช่อลัดดา อายุ 2 เดือน ส่งเสียงร้องกลางดึก ตนจึงลุกขึ้นมาดูแล้วให้นมจนลูกสาวหลับไป ระหว่างนั้นบังเอิญเห็นจิ้งจกสีแดงเกาะอยู่ข้างในมุ้ง ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรและนอนหลับไปจนกระทั่งเช้า จิ้งจกสีแดงก็ยังเกาะอยู่ที่เดิม ตนบอกไปว่า“อยากอยู่ด้วยกันก็ได้” พร้อมทั้งยกมือไหว้แล้วเอื้อมมือไปจับจิ้งจกได้อย่างง่ายดาย โดยมันไม่ได้คลานหลบหนีไปไหน ตนจึงนำมาให้พ่อดู พ่อบอกว่าจิ้งจกตัวนี้เป็นจิ้งจกมีบุญ เขาคงต้องการจะมาอาศัยอยู่ในบ้านเรา ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดี จากนั้นได้ไปนำเอาตู้ปลามาใส่เลี้ยงไว้ พร้อมตั้งชื่อเจ้าจิ้งจกสีแดงว่า“ถุงเงินถุงทอง”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนที่เดินทางไปดูจิ้งจกสีแดงต่างแสดงความตื่นเต้นประหลาดใจ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบเห็นจิ้งจกลักษณะนี้มาก่อน

บางคนก็พูดเล่นว่าเป็นจิ้งจก นปช.หรือเปล่าเพราะมีสีแดง ซึ่งเป็นสีสัญญลักษณ์ของกลุ่มนปช. แต่บางคนบอกมันเป็นความแปลกประหลาดตามธรรมชาติ อย่าเอาไปผูกโยงกับเรื่องการเมือง ขณะที่หลายคนตีเป็นเลขเด็ดต่างๆ นานา