กรณีมีเสียงเล่าลือของชาวเน็ต และมีการฟอร์เวิร์ดเมล์เกี่ยวกับเรื่องและภาพ “เสาผีสิง” ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ
ที่มีข่าวว่าเมื่อครั้งกำลังก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ของสนามบินแห่งนี้ ได้มีหญิงสาวเคราะห์ร้ายถูกฆ่าข่มขืนแล้วนำศพมาฝังไว้ในเสาต้นหนึ่ง หลังเปิดใช้ สนามบินได้ไม่นานปรากฏว่าวิญญาณเกิดเฮี้ยนออกมาหลอกหลอนพนักงานที่อยู่เวรกะกลางคืน จนต้องทำพิธีเซ่นไหว้กันโกลาหลจนเป็นเรื่องโจษขานกันมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น ต่อมากระแสเกี่ยวกับเสาผีสิงต้นดังกล่าวได้กลับมาฮิตอีกครั้งในหมู่นักท่องเน็ต จนมีผู้ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวไทยรัฐว่า ขอให้ช่วยพิสูจน์ข้อเท็จจริงดังกล่าวให้กระจ่าง เพราะเกรงจะเป็นการสร้างเรื่องราวหลอกลวงขึ้นมาเพื่อหวังผลประโยชน์ของมิจฉาชีพบางกลุ่ม
เพื่อความกระจ่างในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เข้าพบกับนายโสฬสชาติ แดงแสงส่ง หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และนายศักดิ์ดา เศวตรัตน์ หัวหน้าฝ่ายดูแล CARGO และปราบปรามยาเสพติดเกี่ยวกับพัสดุไปรษณีย์ ศุลกากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อสอบถามเกี่ยวกับเสาผีสิงต้นดังกล่าวได้รับคำชี้แจงว่า เสาต้นนี้ตั้งอยู่กลางห้องคลังเก็บของศุลกากร (CUSTOMSBOND) ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 14 เมตร ความสูงของเสาจากพื้นถึงเพดาน 3 เมตรเศษ โดยห้องดังกล่าวเป็นห้องรับฝากกระเป๋าและสิ่งของของชาวต่างชาติ ที่แวะมาทำธุระหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย แต่ไม่ประสงค์จะนำสัมภาระเข้ามาในประเทศ จึงนำมาฝากไว้ที่ห้องนี้ เมื่อขากลับออกนอกประเทศจะได้นำสัมภาระกลับออกไปเลย ซึ่งการรับฝากสัมภาระจะคิดค่ารับฝากเป็นรายวันและจากน้ำหนัก รายได้ส่วนนี้จะนำเข้ารัฐทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์
จากการสังเกตของผู้สื่อข่าวพบว่า บริเวณตรงกลางเสาต้นดังกล่าว มีร่องรอยการฉาบปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดทับอยู่ 2 จุด
ลักษณะคล้ายถูกเจาะเนื้อปูนเดิมออกแล้วมีการฉาบปูนใหม่ปิดทับ ผิดกับเสาต้นอื่นที่จะมีลักษณะของเนื้อปูนที่ราบเรียบสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน โดยบริเวณรอยฉาบปูนมีคราบแป้งคล้ายมีคนมาถูหาตัวเลข และมีแผ่นทองคำเปลวมาติดที่ต้นเสาเพื่อขอหวย นอกจากนี้ยังมีผู้นำสายสร้อยลูกปัดมาแขวนไว้คล้ายเป็นเครื่องเซ่นไหว้สักการะ
เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวลือว่ามีศพอยู่ภายในเสาต้นนี้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ เลิศสุวรรณรัชต์ ผู้ดูแลห้องดังกล่าวตอบว่า ไม่สามารถยืนยันได้เช่นกัน
แต่เคยได้ยินเรื่องที่เล่าต่อๆกันมาว่า เมื่อครั้งที่สนามบินกำลังก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ได้มีคนงานสาวชาวพม่าตกลงไปในแบบหล่อเสาขนาดใหญ่ แต่เพื่อนคนงานไม่รู้เลยเทปูนซีเมนต์ทับลงไป ทำให้ฝังร่างเหยื่อทั้งเป็น มารู้อีกครั้งก็ตอนแกะแบบเหล็กออกไปแล้ว จึงเห็นเป็นรูปตัวคนปรากฏอยู่ในเสา วิศวกรคุมงานสั่งให้คนงานช่วยกันกะเทาะคอนกรีตเพื่อนำศพออกมา แต่เนื่องจากคอนกรีตหล่อเสาดังกล่าวมีความแข็งมาก จึงนำศพออกมาได้เพียงบางส่วน จากนั้นวิศวกรจึงสั่งให้อัดซีเมนต์เข้าไปในรอยกะเทาะดังเดิมและฉาบปูนปิดทับ แต่ก็ยังคงปรากฏเป็นรอยปะอยู่ที่เสาสองรอย
“ที่ผ่านมามีคนเข้ามากราบไหว้ขอหวยบ้าง บางคนก็นำเอาทองคำเปลวมาติด เป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เชื่อ บางคนก็นำเอาสายสร้อยและแหวนเพชรมาแขวนตรงเสา โดยใช้สกอตเทปมาปิดไว้เพราะห้ามตอกตะปูที่เสา ก็มีคนมากันตลอด เฉพาะคนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่รู้เรื่อง คนที่ถูกหวยก็นำของมาให้ตามที่บนบานไว้ เมื่อก่อนนี้มีคนที่อยู่เวรตอนกลางคืนบอกว่า เห็นผู้หญิงผมยาวประบ่าเดินไปมาในห้องนี้และเห็นกันหลายคน แต่ผมไม่เคยเห็นและไม่กลัวผี ทุกวันนี้ก็ยังมีคนเข้าๆ ออกๆ มากราบไหว้อยู่เรื่อยๆ ก็อนุญาตให้เข้ามาเพราะเห็นว่าเป็นคนภายใน เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องหลอกลวงกัน” นายสมศักดิ์กล่าว