นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเมื่อวันที่ 2 พ.ย. ถึงการโฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ไม่น่าทุ่มทนมหาศาลเพื่อ แลกเปลี่ยนกับการโปรโมทการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ขนาดนี้ เห็นได้จากประชาชนที่เข้าร่วมพอเสร็จขั้นตอนก็ทยอยกลับออกไปทันทีโดยไม่ได้ให้ความสนใจผู้ปราศรัยคนอื่น ที่แปลกใจคือ คนที่มาในงานกลับน้อยกว่าที่ 3 เกลอหัวกลมประกาศว่า จะมีคนนับแสน ไม่เต็มสนามรัชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งอาจเป็นเพราะการจัดงานครั้งนี้ขาดความร่วมมือจากนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยก็เป็นไกด้ที่มวลชนเบาบาง
ส่วนการติดตามเนื้อหาผ่านการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น นายเทพไท กล่าวว่า
เป็นไปตามที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ เป็นบทบาทของผู้ร้ายปากแข็งไม่ยอมรับความจริง เนื้อหาไม่แตกต่างกันกับแถลงการณ์ที่ออกมาหลังจากมีคำพิพากษาจำคุก ส่วนใหญ่จึงใส่ความกระบวนการยุติธรรมอย่างต่อเนื่องซ้ำซาก โดยชี้ว่ากระบวนการยุติธรรมประเทศไทยคือ กระบวนการยุติความเป็นธรรม ถือว่า เป็นการทำลายชาติครั้งแล้วครั้งเล่า
“ ต้องตั้งคำถามว่ากระบวนการที่เป็นธรรมตามเนื้อหาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้คาดหวังไว้ ให้ความยุติธรรมกับตัวเอง และที่สิ้นหวังไปนั้นเพราะในวันที่ทนายนำถุงขนม 2 ล้าน พยายามติดสินบนและไม่ประสบความสำเร็จ ทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในขณะนั้นถูกจำคุกไปใช่หรือไม่ หากสำเร็จคือความเป็นธรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช่หรือไม่ ประเด็นเหล่านี้นายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ไม่ควรนิ่งเฉย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในสายตาคนทั้งโลก นายกรัฐมนตรีต้องออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องนี้ให้ชัดเจนไม่ใช่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ” นายเทพไทกล่าว
นายเทพไท กล่าวต่อว่า
ท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณกับอนาคตของตัวเอง เชื่อว่าคิดที่จะกลับประเทศไทย เพื่อมาทำการเมืองต่ออย่างแน่นอน เห็นได้จากท่าทีที่ออดอ้อนให้กลุ่มคนที่ศรัทธาหลงใหลเหมือนเดิม แม้กระทั่งการพูดถึงการกลับประเทศ โดยการอ้างเอาพระบารมีมาเป็นเครื่องชี้วัด ทำนองว่าจะกลับประเทศไทยได้เนื่องจากพระบารมีที่ทรงเมตตา
“ จากความหมายที่พูดไม่ได้กลับเพราะพระบารมีไม่เมตตา พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องสำนึกและสำรวจตัวเองว่า กลับไม่ได้เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะหนีคดีหรือหนีคำพิพากษาของศาลที่ให้จำคุก พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยโทษตัวเองมองคนอื่นผิดตลอด ตัวเองเท่านั้นคือความถูกต้อง เหตุผลที่จะกลับประเทศอีกข้อคือ พลังของประชาชนเท่านั้น ความหมายตรงนี้เชื่อว่า เป็นการปลุกระดมให้ประชาชนลุกฮือล้มล้างกระบวนการศาลสถิตย์ยุติธรรม ล้มล้างคำตัดสินใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามแสดงว่า ตนเองเป็นฮีโร่เป็นผู้วิเศษแก้ปัญหาความยากจนเศรษฐกิจของประเทศได้ โดยอาศัยพิษเศรษฐกิจจากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐที่ลุกลามมาถึงประเทศไทยในอนาคตมาเป็นข้ออ้าง ทำให้ประชาชนคิดถึงตัวเองตลอดเวลา แม้กระทั่งตัดพ้อต่อว่าในทำนองประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน แต่เสียใจที่ทำประโยชน์ให้ใครก็ได้แต่ทำในประเทศตัวเองไม่ได้ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังอยู่ในภาวะหลงตัวเอง ”
นายเทพไทกล่าว ถ้าประเทศใดต้องการความสามารถของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ควรที่จะไปทำงานให้กับประเทศนั้น
ส่วนคนไทยและประเทศไทยได้รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างดีแล้วนับตั้งแต่เรื่องราวต่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ได้เข้าสู่กระบวนการศาลสถิตย์ยุติธรรม ผลของคำพิพากษาอธิบายได้ชัดเจนว่า พ.ต.ทักษิณ เป็นคนอย่างไร ไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณเพียงคนเดียวประเทศยังคงสามารถเดินต่อไปได้ด้วยดี และที่พูดว่ากำลังใช้กรรมในเมืองนอกซึ่งเป็นกรรมที่ไม่ได้สร้าง เห็นได้ชัดว่าจนถึงวันนี้แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่สำนึกในพฤติกรรมสร้างไว้เป็นตราบาปของคนไทยและประเทศไทย หลายเรื่องมีข้อสรุปจากศาลแล้ว วันนี้ถ้าคนไทยไม่เชื่อในกระบวนการศาลสถิตยุติธรรมของไทย ก็ไม่ควรเป็นคนไทย ดังนั้นควรไปอยู่ในประเทศที่ตัวเองคิดว่ายึดมั่นเชื่อมั่นในศาลยุติธรรมของเขาจะดีกว่า
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
