"พีต้า" องค์กรพิทักษ์สิทธิสัตว์ชื่อดังของโลก มีจดหมายถึงบริษัทผู้ผลิตไอศกรีม "เบนแอนด์เจอรี่" สหรัฐอเมริกา โดยเรียกร้องให้ใช้น้ำนมแม่ในการผลิตไอศกรีม แทนน้ำนมวัว
ในจดหมายของ "พีต้า" ที่ส่งถึง นายเบน โคเฮน และ นายเจอรี่ กรีนฟิลด์ ผู้ก่อตั้ง "เบนแอนด์เจอรี่" ให้เหตุผลว่า การนำนมแม่มาทำเป็นไอศกรีม ช่วยลดความเจ็บปวดของวัว ผู้บริโภคจะได้รับประทานไอศกรีมที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าด้วย เนื่องจากน้ำนมวัวมีส่วนทำให้เด็กๆ เป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคภูมิแพ้
นางแอชลีย์ เบิร์น เจ้าหน้าที่ "พีต้า" มีความเห็นว่า "แม้การนำนมแม่มาทำเป็นไอศกรีมเป็นความคิดที่แปลก แต่ก็ไม่แปลกไปกว่าที่มนุษย์บริโภคน้ำนมจากสัตว์อื่น"
ตามปกติแล้ว น้ำนมหนัก 5.5 กิโลกรัม จะผลิตไอศกรีมได้ 1 แกลลอน ส่วน "เบนแอนด์เจอรี่" นั้น นำน้ำนมวัวเวอร์มอนต์มาทำไอศกรีม ซึ่งตามกฎหมายสหรัฐแล้ว ไอศกรีมต้องทำมาจากนมวัวเท่านั้น แต่ถ้าทำจากนมแพะ ต้องระบุว่า เป็นไอศกรีมจากนมแพะ ถ้าทำมาจากน้ำนมแม่ ก็ต้องระบุว่า ทำจากนมแม่เช่นกัน
นายลีออน เบอร์ธัวมี เจ้าหน้าที่บริษัทเซนต์แอลบาร์นส์ โคออพเพอเรทีพ ครีมเมอรี่ ผู้ส่งน้ำนมให้กับ "เบนแอนด์เจอรี่" กล่าวว่า
"น้ำนมจากวัวเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งยังปลอดภัย นมแม่และนมวัวยังเป็นสิ่งที่ทดแทนกันไม่ได้ ทั้งยังมีปัญหาว่า หญิงคนใดจะเป็นผู้ให้นม เพราะอุตสาหกรรมไอศกรีมต้องใช้น้ำนมเยอะมาก" สำหรับ "เบนแอนด์เจอรี่" เป็นไอศกรีมระดับพรีเมียมของสหรัฐ เปิดร้านขายครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2521 ที่เมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ ชื่อเสียงเริ่มเป็นที่รู้จัก เพราะทางร้านขายไอศกรีมรสชาติแปลก ไม่เหมือนใคร -เอพี
พีต้าเสนอเบนแอนด์เจอรี่ ใช้นมแม่ทำไอศกรีมแทนนมวัว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวแปลก พีต้าเสนอเบนแอนด์เจอรี่ ใช้นมแม่ทำไอศกรีมแทนนมวัว
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!