ฮือฮาหนุ่มระยองซดฉี่รักษาโรค เผยหนุ่มวัย 51 ปีดื่มปัสสาวะตัวเองทุกวัน
โดยหั่นบอระเพ็ด-กระเทียม ผสมฉี่แล้วบีบน้ำมะนาว เติมเกลือ ก่อนซดเกลี้ยงแก้ว อ้างได้สูตรมาจากพระธุดงค์ มีสรรพคุณรักษาโรคภูมิแพ้ เบาหวาน แถมยังฟิตปั๋ง ส่วนรองอธิบดีกรมการแพทย์ชี้ดื่มปัสสาวะมีมาแต่โบราณ แต่ทางการแพทย์ระบุไม่สามารถรักษาโรคได้ ยิ่งโรคเบาหวานยิ่งเป็นไปไม่ได้ แถมอาจจะทำให้เป็นเกาต์ และหากปัสาวะมีเชื้อโรคก็จะทำให้ติดเชื้อได้ เตือนอย่าไปหลงงมงาย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบคนดื่มปัสสาวะเป็นประจำ เพราะเชื่อว่าเป็นยารักษาโรค
จึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 18/56 หมู่ 3 ซอยโรงก๋วยเตี๋ยว ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง พบนายสมทรง รัตนะ อายุ 51 ปี ทำงานรับจ้างตัดต้นไม้ เจ้าของบ้านกำลังเลื่อยไม้อยู่หน้าบ้าน โดยนายสมทรงกล่าวว่า ดื่มปัสสาวะประจำมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว เพื่อรักษาโรคเบาหวานที่เคยเป็นจนหายเป็นปลิดทิ้ง และยังคงดื่มอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรี้กระเปร่า โดยได้เคล็ดลับดังกล่าวมาจากพระธุดงค์ สำหรับสูตรปรุงรสปัสสาวะต้องเตรียมเครื่องสมุนไพร คือบอระเพ็ด กระเทียม นำมาซอยให้ละเอียด และนำน้ำปัสสาวะใส่แก้วขนาด 1 กั๊ก บีบน้ำมะนาว เติมเกลือลงไปเล็กน้อย
จากนั้นนายสมทรงก็จัดแจงดื่มปัสสาวะโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดูทันที โดยกระดกรวดเดียวหมดแก้ว
พร้อมโชว์พละกำลังฟิตปั๋ง ด้วยการยกโอ่งขนาดใหญ่ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า ใครจะทำตามอย่างตนก็ได้ ไม่หวงสูตร เพราะแท้จริงแล้วการดื่มปัสสาวะมีมานานแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล เรียกว่าน้ำมูตรเน่า คือน้ำปัสสาวะดองกับลูกสมอ ในอดีตพระภิกษุจะดองเพื่อดื่มกินรักษาโรคภูมิแพ้ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ปวดเมื่อยตามข้อ กระดูก ซึ่งเป็นความเชื่อแบบโบราณ แต่ตนได้นำมาปรุงเป็นสูตรสมุนไพร ทดลองดื่มจนโรคเบาหวานที่เคยเป็นหายสนิท
"ทุกวันนี้ผมสามารถไปทำงานตัดต้นไม้ โค่นต้นไม้ได้ โดยอาการปวดเอวเรื้อรังก็หายไป จากเดิมที่ต้องเสียเงินซื้อยากินมานานก็ไม่ต้องแล้ว เพราะปัสสาวะก็มาจากตนเอง และสมุนไพรหาได้จากธรรมชาติ ทั้งนี้ครั้งแรกที่ดื่มก็รู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ไม่ละความพยายาม กลั้นใจกินเพื่อรักษาโรค และนานไปก็จะชินเอง โดยขณะนี้ผมดื่มเป็นประจำทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน รสชาติออกเค็มๆ ซึ่งทุกวันนี้สมองปลอดโปร่งไม่มีเครียด" นายสมทรงกล่าว
หนุ่มโชว์ซดฉี่-บีบมะนาวโรยเกลือผสม
ด้านน.พ.วิวัฒน์ วิริยะกิจจา รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การดื่มปัสสาวะนั้นมีมาแต่โบราณแล้ว ซึ่งตามความเชื่อคือเป็นยา
แต่ในวงการแพทย์เกี่ยวกับเรื่องรักษาโรคคงเป็นไปได้ยาก ยิ่งโรคเบาหวานด้วยแล้วคงเป็นไปไม่ได้ และหากปัสสาวะที่ค้างคืนยิ่งทำให้เชื้อโรคเกิดขึ้นจึงเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะคนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานปัสสาวะที่ขับถ่ายออกมาจะมีน้ำตาลสูง เมื่อกินเข้าไปก็จะยิ่งเพิ่มน้ำตาลขึ้นอีก และในปัสสาวะยังมีกรดยูเรีย และกรดยูริก ที่ก่อให้เกิดโรคเกาต์ด้วย จึงต้องการแนะนำว่าไม่ควรเชื่อว่ารักษาโรคต่างๆ ได้
น.พ.อภิชาติ วิชญาณรัตน์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น
แต่ในทางการแพทย์ไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะในปัสสาวะเป็นสารที่ร่างกายไม่ใช้ และคัดทิ้งแล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีสารอะไรที่จะช่วยรักษาโรคได้ ในกรณีของนายสมทรงเป็นไปได้ว่าจริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้เป็นโรคอะไร และออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารที่ถูกหลัก ทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่แล้ว การที่ไปดื่มปัสสาวะอาจเป็นเพียงของแถม ซึ่งไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อร่างกาย
"อยากฝากเตือนไปยังชาวบ้านอย่าไปหลงงมงาย เพราะการจะพิสูจน์ว่าเป็นโรคเบาหวานหรือไม่นั้น ต้องใช้วิธีการตรวจเลือดพิสูจน์ หากนายสมทรงเป็นโรคเบาหวานจริงแล้วดื่มปัสสาวะจนทำให้หายขาดจากโรคเบาหวาน ก็จะต้องมีการนำผลการตรวจเลือดมาพิสูจน์ว่าระดับน้ำตาลในเลือดเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ในการตรวจพิสูจน์ ไม่อยากให้ไปเชื่อการกล่าวอ้างโดยที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน" น.พ.อภิชาติกล่าว