เผยตัวประหลาดที่หล่นมาจากฟ้า ชาวบ้านเริ่มผวา!เอเลี่ยนบุกโลก

ตัวประหลาดคล้ายวุ้นที่หล่นจากฟ้าในบ้าน เจ้าของบ้านเชื่อเป็นสิ่งวิเศษฟ้าประทานให้ช่วยรักษามะเร็งร้าย ตั้งชื่อ แก้วสารพัดนึก มั่นใจมีชีวิต เพราะยืดได้หดได้ นิมนต์พระทำบุญเพื่อสิริมงคล เผยเป็นข่าวมีคนขอซื้อราคาแพงลิ่วไม่ยอมขายเด็ดขาด แพทย์-ปศุสัตว์-ป่าไม้แห่ดู สรุปไม่รู้ว่าอะไร คาดชิ้นส่วนหรือดักแด้แมลงบางชนิด โยนนักคีตวิทยาพิสูจน์ด่วน ขณะที่ชาวบ้านนับพันโผล่ขอยลโฉม บางคนชักเริ่มผวา เอเลี่ยนบุกโลก

จากกรณีสิ่งประหลาดรูปร่างคล้ายวุ้นหรือเยลลี่ขนาดใหญ และมีคุณสมบัติเรืองแสงคล้ายผีพุ่งใต้ปลิวตกจากท้องฟ้ามาอยู่ที่ข้างบันไดบ้านของ นางกฤษณา มะโนมั่น หรือเจ๊อ้อย อายุ 39 ปี เลขที่ 131/1 หมู่ 3 บ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนทั่วไปเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนและไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของอะไร คาดว่าเป็นอวัยวะบางส่วนของสิ่งมีชีวิตบางชนิดเท่านั้น ซึ่งหากนำไปแช่น้ำก็จะพองขยายตัวขึ้นอีกหลายเท่าสุดอัศจรรย์ และเจ้าของบ้านเชื่อว่าเป็นสิ่งมงคลที่ฟ้าประทานมาให้ ยืนยันจะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 12 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเรื่องราวสิ่งประหลาดเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงก็มีประชาชนนับพันจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือเหมารถโดย สารมาที่บ้านของนางกฤษณา หรือเจ๊อ้อย กันอย่างมืดฟ้ามัวดินจนลานบ้านไม่มีที่ว่างให้ยืนเลยทีเดียว โดยมีจุดประสงค์เพื่อต้องการยลโฉมสิ่งประหลาดคล้ายก้อนวุ้นที่แช่น้ำอยู่ในโหลแก้วกันทั่วหน้า ซึ่งทุกคนยืนยันว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคย เห็นแบบนี้มาก่อนและเจ้าของบ้านได้นิมนต์พระภิกษุ 5 รูป มาทำบุญสวดพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลกับครอบครัว ทำให้ทุกคนได้ร่วมอิ่มบุญทั่วกัน

ในช่วงสายวันเดียวกัน นพ.โชคราชันย์ ชัยฤกษ์สุขสันต์ ผอ.โรงพยาบาลลานสัก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุทัย ธานี และนายกำพล มาเกิด ปศุสัตว์อำเภอลานสัก เดินทางมาพิสูจน์สิ่งประหลาดที่บ้านของ นางกฤษณา หรือเจ๊อ้อย โดยทดลองนำไปแช่น้ำและตรวจทุกส่วนอย่างละเอียดแล้วก็สรุปไม่ได้ว่าคืออะไร ซึ่ง นพ.โชคราชันย์ กล่าวเพียงว่า น่าจะเป็นชิ้นส่วนของแมลงปีกแข็งบางชนิดที่ลอกคราบออกไปแล้ว เพราะเท่าที่เห็นผิวภายนอกลักษณะคล้ายวุ้นใส แกนด้านในเป็นเส้นใยเห็นชัดด้วยตาเปล่า แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมแช่น้ำแล้วถึงพองตัวยุบตัวได้ คงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านแมลงหรือนักกีฏวิทยามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งคงสรุปได้ชัดเจนกว่านี้

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขตสงวนพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งก็เดินทางมาขอดูสิ่งประหลาดนี้เช่นเดียวกัน เนื่องจากสงสัยว่าอาจเป็นชิ้นส่วนของสัตว์ป่าหรือแมลงหายากบางชนิดที่อาศัยในห้วยขาแข้ง ปรากฏว่าหลังจากดูได้พักใหญ่ก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นชิ้นส่วนของ สิ่งมีชีวิตประเภทไหน ระบุเพียงสั้น ๆ ว่าอาจจะเป็นคราบดักแด้ของแมลงบางชนิดหรือผีเสื้อ ขนาดใหญ่มาก ๆ ซึ่งในผืนป่าห้วยขาแข้งไม่เคยพบเห็นชิ้นส่วนดักแด้หรือแมลงแบบนี้มาก่อนเลย

ทางด้าน นางกฤษณา หรือเจ๊อ้อย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากเป็นข่าวมีคนติดต่อขอซื้อให้ราคาค่อนข้างสูง แต่คงขายให้ใครไม่ได้ ตั้งชื่อว่า ็แก้วสารพัดนึกิ เป็นสิ่งวิเศษเฉพาะตัว ของเรา ลักษณะใสเหมือนแก้ว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นมาก่อน เชื่อว่าคงเป็นสิ่งที่ฟ้าประทานมาให้ช่วยรักษาโรคมะเร็งที่ป่วยมานานให้หายเสียที แม้ไม่ทราบว่าเป็นอะไร แต่น่าจะมีชีวิตยืดได้หดได้ และถ้าสิ่งนี้ยังคงสภาพเหมือนเดิมไม่เน่าเปื่อยหรือสูญสลายไปขอแช่น้ำเก็บไว้ และวันนี้รู้สึกว่าจะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามเรื่องราวสิ่งประหลาดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางทั่ว จ.อุทัย ธานี และจังหวัดใกล้เคียงประชาชนต่างข้องใจว่าเป็นอะไรกันแน่ โดยเฉพาะบางส่วนที่เชื่อว่ามีสิ่งมีชีวิตนอกโลกมองว่าชิ้นส่วนประหลาดนี้อาจเป็นของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกหรือเอเลี่ยนที่หลุดลอยจากชั้นบรรยากาศตกลงสู่พื้นดิน แต่จะเป็นอันตรายกับมนุษย์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถยืนยันได้และในวันเดียวกันนี้รายการบ้านเลขที่ 5 ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ส่งทีมงานนั่ง รถตู้มารับตัวนางกฤษณาหรือเจ๊อ้อย พร้อมญาติสนิทจากบ้านพักที่ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี มาออกอากาศสดในเวลา 18.30 น. โดยมี แอ๊ด-ชัยวัฒน์ อนุตระกูลชัย กับลอร่า-ศศิธร วัฒนกุล เป็นพิธีกร ซึ่งได้ซักถามความเป็นมาของสิ่งประหลาดอย่างละเอียด สรุปว่าถึงวันนี้ยังไม่รู้ว่าคืออะไรเหมือนเดิม.

14:22 น. เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในชุมชนวังโสม ซ.สุเหร่าหัวหมากน้อย แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ว่าพบตัวประหลาดคล้ายวุ้นมีลักษณะคล้ายแมงกระพรุน ลักษณะนิ่มตกลงมาในกะละมัง บ้านเลขที่ 278/1 ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวประหลาดดังกล่าวใส่ไปในน้ำบรรจุในโหล ขนาดเล็กตั้งอยู่หน้าบ้าน เลขที่ 223 ซึ่งเป็นบ้านของนายอรุณ เสมโช๊ะ ซึ่งเป็นคณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบ พบมีชาวบ้านจำนวนมากนับ 100 คนมามุงดูทั้งเด็กและคนชรา พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกิดอาเพศเพราะไม่เคยเห็นตัวประหลาดลักษณะนี้มาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับตัวแปลกประหลาดที่พบยังมีชีวิตอยู่ลอยในน้ำในขวดโหลที่บรรจุไว้โดยมีลักษณะด้านในเป็นแกนสีขาวด้านนอกลักษณะเป็นวุ้นลักษณะนิ่มมาก ซึ่งจากการวัดพบว่ามีลำตัวมีความยาว 13 ซม.ความหนาประมาณ 4 ซม.ส่วนแกนด้านในสีขาวมีขนาดความกว้างประมาณ 1.5 ซม. และตัวประหลาดดังกล่าวถ้ามาวางที่พื้นจะมีอาการยุบตัวจากความยาวประมาณ 13 ซม.หรือประมาณ 5.5 นิ้ว เหลือประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น


ผู้สื่อข่าวสอบถามนางดวงฤดี พิมพิทักษ์ อายุ 30 ปี อาชีพแผนกหั่นชิ้นส่วนไก่บริษัทซีพี ย่านการไฟฟ้ามีนบุรี ซึ่งเป็นผู้พบในระหว่างซักเสื้อผ้า กล่าวว่า ตนเองได้แซ่ผ้าในเวลากลางคืนแช่ไว้บริเวณด้านหลังของบ้านด้านล่างจะเป็นแอ่งน้ำ ในช่วงเช้าประมาณ 9 โมงก็ได้ออกมาซักเสื้อผ้าที่แช่ไว้ระหว่างซักเสื้อผ้าไปประมาณ 6 ตัวได้สังเกตุเห็นเป็นวุ้นขาวๆ ก็เอามือไปจับดู แทบช๊อกเพราะมันเป็นวุ้นและมีชีวิต จึงได้ทิ้งไปที่พื้นจากตัวยาวประมาณขวดกระทิงแดงกลับหดตัวลงรวดเร็ว ตนตกใจมากเรียกลูกหลานในบ้านออกมาดูก็ได้นำไปให้ญาติดูก่อนที่จะใส่ไว้ในขวดโหล เกิดมายังไม่เคยพบมาก่อนไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่เคยเห็นในข่าวโทรทัศน์เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเขาไปอยู่ในกะละมังเมื่อไหร่แต่คิดว่าจะมาอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนเพราะตอนทุ่มหนึ่งมีฝนตกลงมา พอ 2 ทุ่มฝนก็หยุดจนมาพบดังกล่าว ตนเองไม่รู้ว่ามีพิษหรือไม่ก็ไม่รู้ว่าจะส่งไปให้ศูนย์วิจัยหรือไม่ ตนเองส่งให้คณะกรรมการหมู่บ้านซึ่งทางขณะกรรมการจะส่งให้นายวรากร บุญมาเลิศ สข.เขตบางกะปิดำเนินการต่อ ตนเองกับแฟนจะปรึกษากันก่อนว่าทำอย่างไร


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามด.ช.นที บู่ทอง อายุ 11 ปี ซึ่งเป็นหลาน กล่าวว่า ก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรเหมือนกันเจอเป็นครั้งแรกนิ่มเหมือนตัวทาก และช่วงกลางคืนตอนฝนตกตกลงมาอย่างหนักได้ยินเหมือนเสียงตกบนสังกะสีน่าจะเป็นตัวประหลาดนี้ตกลงมาพร้อมฝนแล้วหล่นลงมาในกะละมัง ตนเองคิดว่าน่าจะเป็นอุจจาระของมนุษย์ต่างดาว ด้านนางอาสา มั่นคง อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 11 บอกว่าเป็นเรื่องที่แปลก ก็กำชับลูกหลานไม่ให้จับเพราะไม่รู้ว่าให้โทษหรือคุณ แต่ก็ไม่ได้ตกใจมากเพราะตัวเล็กแต่กลัวว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษอยากให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ นายสันชัย เมฆลอย อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่อปพร.เขตมีนบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นสิ่งประหลาดเกิดในชุมชนตนเองมองว่า อาจจะเป็นสิ่งว่าจะมีภัยภิบัติเกิดขึ้นในภายหน้าเตือนให้มนุษย์ระวังถึงภัยของปรากฏการณ์ของธรรมชาติที่เกิดขึ้น ตนเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน าอจจะเป็นสิ่งเตือนภัยให้คนได้ทำความดีกัน