เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.ครองชัย ตาลประดิษฐ์ พงส.สบ.2 สภ.อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
รับแจ้งจากนายพุฒ เตือนขุนทด อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 หมู่ 15 ต.ด่านขุนทดว่า พบหัวกะโหลกมนุษย์ 2 หัว ภายในไร่ของตนท้ายหมู่บ้าน ห่างจากถนนสายด่านขุนทด-พระทองคำ เขาไปในไร่ประมาณ 3 กม. จึงรุดไปตรวจสอบ พบโครงกระดูกมนุษย์ที่หน่วยกู้ภัยฮุก31 ช่วยกันขุดขึ้นมาเรียงเป็นโครงร่างมนุษย์ 1 โครง และเศษภาชนะสิ่งของเครื่องโบราณจำนวนหนึ่ง
นายพุฒกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนพร้อมด้วยญาติๆพากันมาขุดดินใส่ถุงปุ๋ย เพื่อนำไปถมถนนที่ถูกน้ำเซาะขาดช่วงน้ำท่วม
ขณะที่ใช้จอบขุดดินลึกลงไปประมาณ 60-70 ซ.ม. พบกะโหลกมนุษย์ 2 กระโหลก จึงนำขึ้นมาวางไว้บนปากบ่อ แล้วไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านคนอื่นๆทราบ ต่อมามีหน่วยกู้ภัยเดินทางมาและจัดเรียงโครงกระดูกเป็นร่างคน ไม่เหมือนกับที่พบในครั้งแรก
พระอาจารย์มหาลาภ มหาลาโภ เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มโพรง ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด เป็นวัดที่ขุดพบซากกระดูกคนโบราณมากที่สุด จนกรมศิลปากรขึ้นบัญชีไว้ กล่าวว่า
จากหลักฐานที่พบดังกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นกระดูกมนุษย์โบราณ มีอายุราวประมาณ 1,300-2,000 ปี แต่ถ้าจะให้แน่นอน ต้องรอกรมศิลปากรมาตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง พื้นที่ๆขุดพบโครงกระดูกน่าจะเป็นเมืองเก่า และน่าจะมีโครงกระดูกอีกจำนวนมากอยู่ใต้ดิน