งานสวดศพ-วงแตก นึกว่าผีมา ตัวจริงโผล่ยังไม่ตาย

ที่นอนอยู่ในโลงผิดคน ต้นเหตุหายไปนับเดือน พบศพรถชน-คิดว่าใช่


แตกตื่นกันทั้งศาลาวัดที่ชัยนาท จู่ๆ หนุ่มที่ญาติจัดงานศพให้โผล่ปรากฏตัวกลางงาน ทำเอาชาวบ้านที่มาฟังสวดผวานึกว่าผีหลอก แต่ความจริงยังไม่ได้ตาย ตร.เอาศพผิดมาให้ พี่สาวเผยน้องชายสติไม่ดี หายออกจากบ้านไปเป็นเดือน ตามหาบ้านญาติก็ไม่เจอ ต่อมาตร.แจ้งว่าเจอศพถูกรถชนใบหน้าเละริมถนนสายเอเชีย รูปพรรณเหมือนกันเป๊ะ ต่างตรงที่ไม่ได้นุ่งกางเกงใน เลยปักใจเชื่อ กระทั่งมาโผล่กลางงานศพ ส่วนศพทางตร.นำกลับไปสืบหาเป็นใครกันแน่

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ชัยนาท ว่ามีเสียงร่ำลือจากชาวบ้านหมู่ 2 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เกิดเหตุการณ์แตกตื่นกันโกลาหลกลางงานศพที่วัดหลวงสิริวนาราม

ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 2 ต.สรรพยา เมื่อเจ้าของงานศพตัวจริงปรากฏตัวกลางงานศพตัวเอง ทำให้ญาติพี่น้อง และชาวบ้านที่มาร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ ต่างพากันแตกตื่นคิดว่าผีหลอก แต่แท้จริงแล้วเจ้าของงานศพไม่ได้เสียชีวิต เพราะศพที่อยู่ในโลงไม่ใช่ตัวจริงที่ตรงกับงานศพ เป็นการจัดงานศพผิดศพ ทางญาติพี่น้องและเจ้าภาพต้องยกเลิกพิธีกลางคัน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพกลับไปคืน

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดหลวงสิริวนาราม

พบชาวบ้านช่วยกันเก็บสายไฟฟ้าเครื่องขยายเสียง โต๊ะเก้าอี้ และโต๊ะหมู่บูชา อีกทั้งพบภาพถ่ายหน้าศพระบุชื่อ นายสำเริง นุ่มฤทธิ์ อายุ 45 ปี ที่ใต้ภาพเขียนว่า ชาตะ 17 ก.ย.2505 มรณะ 16 ส.ค.2550 จากการสอบถามนางโสภา นามธงชัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/3 หมู่ 3 ต.สรรพยา เจ้าภาพงานศพ และเป็นพี่สาวของนายสำเริง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 14 ก.ย. ขณะที่พระสวดพระอภิธรรมศพนายสำเริง น้องชายอยู่นั้น จู่ๆ นายสำเริงก็เดินโผล่มากลางงานศพ ชาวบ้านที่มารับฟังสวดศพต่างแตกฮือนึกว่าผีหลอก สุดท้ายต้องยกเลิกงานสวดศพทันที แจ้งตำรวจให้มารับศพกลับสุสานที่จ.ลพบุรี เพราะศพในโลงที่ทำพิธีสวดอยู่นั้นไม่ใช่ศพของน้องชาย

นางโสภา กล่าวถึงที่มาจัดงานศพผิดตัวว่า ก่อนหน้านี้น้องชายเป็นคนสติไม่สมประกอบ และมักจะหายออกจากบ้านเป็นประจำ


ทุกครั้งที่หายไปจะไปหาญาติที่อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี แต่ครั้งนี้หายไปเป็นเดือน เมื่อสอบถามญาติที่อ.ลำนารายณ์ ก็บอกว่าน้องชายไม่ได้มาหา และหายไร้วี่แววไปเป็นเดือน ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.สรรพยา ว่าพบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ ถูกรถชนจนเสียชีวิตที่ถนนสายเอเชีย หลักกิโลเมตรที่ 114-115 หมู่ 4 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา สภาพศพใบหน้าเละ พร้อมทั้งนำภาพถ่ายศพมาให้ดู ลักษณะเหมือนนายสำเริงน้องชาย อีกทั้งมีรอยสักเสือเผ่นที่หน้าท้อง สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้น มีเชือกสีแดงผูกแทนเข็มขัด ผิวและความสูงใกล้เคียงกัน จึงค่อนข้างแน่ใจว่าเป็นศพน้องชาย

เจ้าภาพงานศพผิดตัวกล่าวต่อว่า แม้จะค่อนข้างปักใจเชื่อว่าเป็นศพน้องชาย แต่มีข้อข้องใจอยู่อย่างเดียวคือ ปกติน้องชายจะไม่นุ่งกางเกงใน แต่ที่ศพนุ่งกางเกงใน

จึงสอบถามตำรวจบอกว่า อาจจะหยิบของใครไปสวมใส่ก็ได้ ทำให้ปักใจเชื่อ จากนั้นจึงทำเรื่องขอศพจากตำรวจที่นำไปเก็บไว้ที่สุสาน จ.ลพบุรี นำมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา และตั้งใจจะฌาปนกิจศพในวันศุกร์ที่ 14 ก.ย. แต่ชาวบ้านถือไม่เผาศพในวันศุกร์ จึงเลื่อนมาจะเผาในวันที่ 15 ก.ย. เพราะศพมีกลิ่นเหม็นมาก เพราะเสียชีวิตมาเกือบเดือนแล้ว ขณะสวดศพคืนสุดท้าย จู่ๆ น้องชายก็โผล่มากลางงานสวดศพตัวเอง ชาวบ้านต่างแตกตื่น และต้องเลิกงานสวดศพกลางคัน

"เสียเงินไปหมื่นกว่าบาทจัดทำบุญสวดศพ ไม่รู้เป็นศพใคร แต่ก็ดีใจที่น้องชายกลับมา ถึงเขาจะสติไม่ดี แต่ก็ไม่เคยทำร้ายใคร ชอบเที่ยว เดินทางไปหาญาติๆ หายไปเป็นเดือนๆ ก็มี ข้าวของที่ซื้อมาแล้วพวกอาหารที่นำมาเลี้ยงชาวบ้านมาฟังสวด จึงต้องนำมาเลี้ยงเพลพระแทน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ศพที่ไม่มีญาติที่นำมาตั้งสวดพระแทนน้องชาย" นางโสภา กล่าว

ด้าน ร.ต.ท.ไพฑูรย์ ยวกทอง ร้อยเวร สภ.อ.สรรพยา เจ้าของคดี กล่าวว่า

ศพดังกล่าวถูกรถชนตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. เวลาประมาณ 23.45 น. ที่ถนนสายเอเชีย จากนั้นพยายามสืบหาญาติตลอดมา พร้อมทั้งนำภาพถ่ายศพในที่เกิดมาให้ดู ญาติบอกตำหนิรูปพรรณตรงกัน จึงขอรับศพจากมูลนิธิ จ.ลพบุรี มาให้ญาติบำเพ็ญกุศลต่อไป แต่เมื่อนายสำเริงกลับมา และยังไม่ตาย ทางตำรวจก็ต้องสืบหาว่าศพเป็นใครมาจากไหน ถ้าผู้ใดเป็นญาติ หรือสงสัยว่าเป็นญาติให้มาดูภาพถ่ายได้ที่สภ.อ.สรรพยา ทุกวัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์