จากกรณีที่เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษรายงานว่า นายแซม คานิเซย์ อายุ 16 ปีถูกหมัดทะเลกินเนื้อลึกลับแทะข้อเท้า 2 ข้าง จนเลือดไหลอาบต้นขา หลังพายเรือเล่นน้ำในทะเลเมืองไบรตัน นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยนายแซมระบุว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังเล่นฟุตบอลกับเพื่อนริมชายหาด จากนั้นลงไปเล่นในทะเล และเดินกลับขึ้นมา หลังมีเลือดออกขาสองข้าง แต่เพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร
"ผมแสบๆ บริเวณขา 2 ข้าง ตอนแรกคิดว่าคงเล่นฟุตบอลมาก่อนหน้า สัญชาตญาณผมบอกให้ผมต้องก้าวเดินบนก้อนหิน แต่รู้อีกทีทำไม่ได้แล้ว เนื่องจากความเจ็บปวดกระจายไปทั่วข้อเท้าและขาผมแล้ว" นายแซมกล่าว และว่า ตนเดินทางไปโรงพยาบาล เพราะห้ามเลือดไม่ได้ และแพทย์เองสับสนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นรูขนาดเล็กที่ขา คาดเดาว่าอาจเป็นตัว "หมัดทะเล"
ล่าสุด เฟซบุ๊กของพิพิธภัณฑ์วิกตอเรีย (Museums Victoria) เผยว่านักชีววิทยาทางทะเลสามารถระบุพันธุ์สัตว์น้ำที่แทะข้อเท้า 2 ข้างของนายแซม คานิเซย์ อายุ 16 ปีจนเลือดไหลอาบได้แล้วหลังจากที่พ่อของหนุ่มคนดังกล่าวจับสัตว์น้ำตัวดังกล่าวไว้ให้กับทางพิพิธภัณธ์ตรวจสอบ
เจนีเฟอร์ วอล์กเกอร์-สมิธ นักชีววิทยาทางทะเลของพิพิธภัณฑ์วิกตอเรีย สามารถระบุสัตว์ที่ทำร้ายขาของหนุ่มชาวออสซี่จนเลือดอาบทั้งสองข้างว่าคือ ลีซีอานาสซิด แอมฟิพ็อดส์ เป็นสัตว์น้ำเปลือกแข็งชนิดหนึ่งที่กินซากพืชซากสัตว์เป็นอาหาร ปกติแล้วสัตว์ชนิดดังกล่าวมักจะไม่ทำอันตรายกับมนุษย์จนมีลักษณะเช่นเดียวกับที่นายคานิเซย์พบ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วอล์กเกอร์-สมิธ ระบุว่า แอมฟิพ็อดส์ตัวนี้น่าจะมีสารต้านการแข็งตัวของเลือดอยู่ ประกอบกับน้ำทะเลที่เย็น ทำให้นายคานิเซย์ไม่รู้สึกเจ็บปวดหลังโดนกัด แต่โชคยังดีที่สัตว์ดังกล่าวไม่มีพิษ
ทั้งนี้มีการเรียกแอมฟิพ็อดส์ในบางครั้งว่าเป็นหมัดทะเล หรือไรทะเล แต่สองชื่อดังกล่าวที่คนทั่วไปเรียกมักจะหมายถึงไอโซพ็อดส์ สัตว์น้ำเปลือกแข็งอีกประเภทหนึ่งที่ต่างจากแอมฟิพ็อดส์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
