ยังคงเป็นปริศนาจากกรณีที่นายนราวุฒิ พวงเกษร อายุ 28 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะบริหารธุรกิจ ม.กรุงเทพ เสียชีวิตอย่างปริศนา บริเวณทางขึ้นภูเขาทอง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (วัดภูเขาทอง) ที่ยังไม่ฟันธงสาเหตุการตาย เผยผู้ตายมีโลกส่วนตัวสูง และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจคราบเลือด ลายนิ้วมือแฝงบนระฆัง พร้อมจำลองพฤติกรรมที่เกิดขึ้น รวมทั้งตรวจสอบวงจรปิดจับภาพผู้ตายเดินจงกรมบริเวณ หอระฆัง พร้อมทำท่าเหมือนนกบิน ขณะที่แม่ชีได้ยินเสียงกรีดร้อง และระฆังดังเป็นจังหวะ
โดยแม่ชีเล่าว่า ได้ยินเสียงกรีดร้อง และระฆังดังเป็นจังหวะ ร้องคางเหมือนอยากได้อะไรสักอย่าง เหมือนคนเมายา เหมือนไม่ได้อะไรดังใจลั่นวัด ตอนนั้นแม่ชีอยู่คนเดียว ได้เสียงผู้ตายคนเดียว แต่ไม่ได้ยินเสียงการร้องขอความช่วยเหลือ หรือเสียงการต่อสู้
พระลูกวัดผู้พบชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ พบเพียงผู้ตายกำลังหายใจโรยรินอยู่
ทางด้าน นางอำไพ แม่ของนายนราวุฒิ พร้อมด้วยพี่ชายของผู้เสียชีวิต เข้าพบเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่โดยในเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
นางอำไพ กล่าวว่า นายนราวุฒิเป็นลูกชายคนเล็กจากลูกทั้ง 3 คนของตน ซึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมอันดับ 1 คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารจัดการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และกำลังจะรับปริญญา ในช่วงระหว่างรอรับปริญญาตนจึงให้ลูกชายมาช่วยดูแลธุรกิจครอบครัว คือร้านอาหารลูกชายมีหน้าที่ดูแลในส่วนของเคาน์เตอร์ ส่วนตนดูแลเรื่องภายในห้องครัว ในวันเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ตามจริงแล้วลูกชายตนมีนัดต้องไปงานแต่งงาน เพื่อนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีการจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วด้วย แต่จู่ๆลูกชายก็มาบอกว่าไม่ไปแล้ว ต่อมาในเวลา 4 ทุ่มลูกชายมาขอเงินตน 500 บาท แล้วไม่ได้ติดต่อลูกชายอีกเลย ก่อนที่ตนจะมาทราบข่าวว่า ลูกชายเสียชีวิตแล้ว
นางอำไพ กล่าวต่อว่า ปกติลูกชายตนเป็นคนร่าเริงและชอบทำบุญ แต่ตนกับลูกชายพักอาศัยอยู่คนล่ะบ้าน เลิกงานแล้วก็จะแยกย้ายกลับบ้านกันเลย ดังนั้นเวลามีปัญหาอะไรลูกชายมักจะไม่เล่าให้ฟัง แต่ตนรู้ดีว่าลูกชายตนมีนิสัยคล้ายผู้หญิง ชอบซื้อเครื่องสำอางมาแต่งหน้า แค่หยดน้ำร้อนกระเด็นใส่แขนเขายังร้อง จนบ้านแทบแตก ตนจึงไม่เชื่อว่าลูกชายตนจะฆ่าตัวตายด้วยวิธีพิสดารแบบนี้ ตนกังวลว่าลูกชายจะถูกคนที่แอบขึ้นไปนอนอยู่ข้างบนนั่น แอบทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เพราะลูกชายของตนไปตีระฆังเสียงดัง แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรและอธิบายถึงแนวทางการสอบสวนแล้วนั้น ตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความใดๆ เพราะเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจ คงเป็นเพราะลูกชายของตนตั้งใจที่จะฆ่าตัวตายเองจริง และมีการวางแผนมาก่อนหน้านี้แล้ว
จากการที่ตำรวจสอบถามเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตตั้งแต่มัธยมต้น อายุ 26 ปี เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นคนร่าเริง และชอบทำบุญอย่างมาก แต่ถ้ามีเรื่องอะไรที่ทำให้กังวลใจ ผู้ตายก็จะแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อน และชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว โดยผู้ตายโพสต์ข้อความสุดท้ายไว้ในเฟซบุ๊คในวันที่ 14 ส.ค. เวลา 21.19 น. มีข้อความว่า “หากเรารู้วันสุดท้ายในชีวิต และสามารถขออะไรก็ได้ เราจะขออะไรจากพรวิเศษเหล่านั้น”
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้อธิบายแนวทางการสอบสวนให้แม่ผู้เสียชีวิตฟังแล้วนั้น แม่ผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ติดใจเอาความใดๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทิ้งแนวทางการสอบสวน หากกว่าในระหว่างสอบสวนพบพิรุธ และพบว่าไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตายเอง ก็จะมีเริ่มต้นสอบสวนและชันสูตรพลิกศพอีกครั้ง
คลิ๊กชมภาพวงจรปิดจับภาพสุดท้าย บัณฑิตเกียรตินิยม ตายปริศนาบนภูเขาทอง
VVVV
VV
V
V
V