ตะลึงภาพขนหัวลุกคนถ่ายช็อกเด็กโผล่แจมยืนหลังรูป

ชัตเตอร์ติดวิญญาณ เด็กใส่แว่นนิรนามโผล่หลอนในรูปภาพ หนุ่มโรงแรมเมืองระยองขนหัวลุก ไปสักการะ รอยพระพุทธบาท บนเขา คิชฌกูฎ เมืองจันทน์ พร้อมเพื่อนรวม 5 คน กว่าจะถึงเที่ยงคืน ควักกล้อง ดิจิตอล ออกมาชักภาพเป็นที่ระลึก เลือกโลเกชั่น ริมหุบเหว รุ่งเช้าตื่นมาโหลดภาพลงคอมพ์ แทบช็อก เด็กใส่แว่นหลอนโผล่หลังภาพ เชื่อวิญญาณต้องการส่วนบุญ เตรียมอุทิศส่วนกุศลให้

เรื่องราวภาพหลอนวิญญาณเฮี้ยนครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าว จ.ระยอง ได้รับการติดต่อจากนายขวัญชัย ชาญธนา อายุ 30 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ว่ามีภาพถ่ายที่เชื่อว่าถ่ายติดวิญญาณเฮี้ยนเข้ามา จึงรุดไปตรวจสอบที่บ้านพักของนายขวัญชัย ใน อ.เมืองระยอง

นายขวัญชัย กล่าวถึงที่มาของภาพสยองขวัญว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธ บาท ที่ ต.เขาคิชฌกูฏ กิ่ง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี กับเพื่อนรวม 5 คน โดยรอยพระพุทธบาทดังกล่าวจะเปิดให้ประชาชนเข้านมัสการเพียงปีละ 2 เดือน คือ ก.พ.-มี.ค. เมื่อพวกตนไป ถึงบริเวณเชิงเขาทางขึ้นเขา เป็นเวลาประมาณ 22.00 น. จากนั้นได้ใช้เวลาเดินขึ้นบันไดเขา คิชฌกูฏอีก 2 ชั่วโมง จึงถึงรอยพระพุทธบาทในเวลาประมาณ 24.00 น. หลังจากพักเหนื่อยแล้ว พวกตนได้เข้าไปกราบนมัสการรอยพระพุทธ บาท ซึ่งตนได้นำกล้องดิจิทัลที่พกมาด้วยถ่ายรูปเพื่อน ๆ บริเวณเชิงหินที่ด้านหลังเป็นหุบเหวลึก โดยต้องใช้แฟลชเนื่องจากสถานที่มืดและแสงไม่พอ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกในการเดินทาง จากนั้นพวกตนทั้งหมดเดินทางกลับลงมา

นายขวัญชัย กล่าวด้วยสีหน้าตระหนกต่อไปว่า ต่อมาในช่วงเช้า ตนได้นำรูปถ่ายจาก กล้องดิจิทัลย้ายข้อมูลใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ และ ถึงกับขนลุกเกรียวด้วยความสยองขวัญ เมื่อพบว่าภาพที่ตนถ่ายเพื่อน 4 คน กลับมีรูปเด็กใส่แว่นตาจ้องถมึงทึงมาที่ภาพ โดยเด็กคนดังกล่าวมีลักษณะใบหน้าเรียวยาว หูกาง อายุประมาณ 15-18 ปี ลอยเหนือด้านหลังของเพื่อนผู้ชายที่นั่งด้านหลังสุดของรูป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ เพราะด้านหลังสุดของเพื่อนตน มีแต่เพียงเหวลึกเท่านั้น

"ผมเชื่อว่าเด็กที่ติดมาในภาพ น่าจะมาร้องขอส่วนบุญ เมื่อผมไปบอกเพื่อน ๆ ให้มาดูภาพ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันด้วยความหวาด กลัวว่าต้องเป็นวิญญาณอย่างแน่นอน ซึ่งพวกผมเตรียมทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เด็กที่ปรากฏในภาพเพื่อความสบายใจแล้ว" นายขวัญชัย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากรณีดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์ภาพซ้อนหรือเกิดจากการใช้แฟลชในระบบกล้องดิจิทัล รวมถึงการทำรีทัชภาพผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตามนายขวัญชัยยืนยันว่าไม่มีการปรับแต่งภาพใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่มักเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในการถ่ายภาพ ซึ่งขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความเชื่อของแต่ละบุคคล.