เห็นเด็กจมน้ำโดดช่วยผัว-เมียท้องตายแทน

สามีภรรยาใจบุญ

เห็นเด็กใกล้จมน้ำ 2 คน ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยเหลือ แต่กลับสังเวยตายหมู่ 3 ศพ เผยภรรยาตั้งครรภ์ 3 เดือน เด็กรอดตายรีบวิ่งไปเรียกคนในหมู่บ้าน แต่ช่วยไม่ทัน เผยเป็นครั้งแรกที่มีคนตาย เชื่อจะไม่มีคนมาเล่นน้ำอีกเพราะมีศพตายทั้งกลม

เหตุสองสามีภรรยากระโดดช่วยเด็กจมน้ำแต่กลับสังเวยชีวิตตายหมู่

ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ร.ต.อ.ประหัส ปลายด่วน ร้อยเวร สภ.อ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิตที่ฝายสะพานข้ามห้วยฮ่องหอ ระหว่างบ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ-บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ให้นำนักประดาน้ำมางมหาศพ ท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยคนที่มามุงดูเหตุการณ์

หลังใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการงมหาผู้เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่ก็พบศพผู้ตายทั้งสามคน ทราบชื่อคือ ด.ญ.พิสมัย ผาคำ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนบ้านหนองจันทร์ อยู่บ้านเลขที่ 54 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม นางปวีณา พันธุ์รักษา อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 บ้านดงโชค ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม และนายอรรคพงษ์ บัวพรม อายุ 23 ปี ชาวบ้านน้อยใต้ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และที่สร้างความสลดใจให้แก่ชาวบ้าน ก็คือ นางปวีณากำลังตั้งท้องได้ 3 เดือนจึงเสียชีวิตทั้งแม่และลูก

จากการสอบสวนระบุว่า

ขณะนางปวีณาและนายอรรคพงษ์เดินทางมาที่สะพานดังกล่าวเพื่อเล่นน้ำ ก็เห็น ด.ญ.พิสมัย เล่นน้ำอยู่ก่อนแล้ว และเห็นว่ากำลังจะจมน้ำ ทั้งคู่จึงกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือ โดยนางปวีณาลืมว่าตนเองว่ายน้ำไม่เป็น จึงทำให้ทั้งสามจมน้ำเสียชีวิตทั้งหมด

ร.ต.อ.ประหัส ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า

จากการสอบสวนชาวบ้านในเบื้องต้นทราบว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นสะพานที่ระบายน้ำจากลำห้วยฮ่องฮอลงลำห้วยบังกอ ไปสู่ลำแม่น้ำโขง ที่บ้านท่าค้อ โดยช่วงนี้เป็นช่วงน้ำหลากไหลแรงและใต้สะพานจะเป็นฝายน้ำล้น มีความลาดชันเหมือนสไลเดอร์ ยาวประมาณ 20 เมตร ทำให้เด็กและผู้ใหญ่มักนิยมมาเล่นน้ำกันมาก โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อน ซึ่งจะปล่อยตัวตรงที่ลาดชันให้ไหลพุ่งลงไปในลำห้วย

ส่วนสาเหตุครั้งนี้ทราบว่า

ขณะเกิดเหตุ ด.ญ.พิสมัย กำลังเล่นน้ำอยู่กับ ด.ช.แต๋ว อายุประมาณ 10 ขวบ เป็นหลานของยายผิง อยู่บ้านหนองจันทร์ ซึ่งขณะนั้น ด.ช.แต๋ว เกิดลื่นเสียหลักพุ่งลงไปในน้ำลึก ด.ญ.พิสมัย พยายามเข้าไปช่วยแต่ตัวเองจมน้ำ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่สองสามีภรรยาผ่านมาเห็นเหตุการณ์จึงลงไปช่วยเหลือ และสามารถช่วย ด.ช.แต๋ว รอดมาได้ ส่วน ด.ญ.พิสมัย นางปวีณา และนายอรรคพงษ์ มีอาการเหนื่อยล้าไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ส่งผลให้จมน้ำเสียชีวิตในที่สุด 

ช่วงที่ ด.ช.แต๋ว รอดชีวิตมา ก็วิ่งขึ้นไปบอกชาวบ้านในหมู่บ้านหนองจันทร์ให้ช่วยเหลือ

ชาวบ้านจึงแตกตื่นรีบวิ่งมาช่วย แต่ไม่ทันการณ์" ร.ต.อ.ประหัส กล่าว 

 ด้านนายณรงค์ แพงสาร กำนันตำบลหนองญาติ กล่าวว่า จุดเกิดเหตุชาวบ้านจะมาเล่นน้ำกันเป็นประจำ เพราะเหมือนสไลเดอร์ธรรมชาติของฝาย แต่ปกติพ่อแม่ ผู้ปกครองจะมาตามลูกของตัวเอง และฝายดังกล่าวก็ไม่เคยมีคนจมน้ำตายมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิต และเป็นการตายทั้งกลม ทำให้เชื่อว่าจะไม่มีชาวบ้านมาเล่นน้ำที่นี่อีกต่อไป