ทึ่ง!เพาะถั่งเฉ้าขายกิโลละเหยียบแสน
เมื่อวันที่14 ก.ค.58 งาน"วันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2558" ระหว่างวันที่ 3-12 ก.ค.58 ที่สนามหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อแลกเปลี่ยนทางวิชาการและเทคโนโลยีด้านการเกษตร การเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรและเทคโนโลยี และเพื่อให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของอาชีพเกษตรในฐานะผู้ผลิตอาหารและเป็นครัวของโลก มีการออกบูธของแต่ละหน่วยงาน มีผู้ให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะ ร้านเรือนไหม-ใบหม่อนที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมมากที่สุดนำ“ถั่งเฉ้า“สายพันธุ์สีทอง ที่เพาะเลี้ยงเอง ในห้องปลอดเชื้อและควบคุมอุณหภูมิ ใช้ดักแด้ไหมเป็นโปรตีนเสริม มีระยะเวลาในการเลี้ยงอยู่ที่ 5 เดือน ก่อนส่งขายในรูปแบบถั่งเฉ้าแห้ง ปัจจุบันราคา ขายส่งอยู่ที่ 60,000-80,000 บาท/กิโล กรัม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของถั่งเฉ้าพร้อมดื่ม และกำลังพัฒนาไปสู่การเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้าจากดักแด้ไหม โดยใช้ดักแด้ไหม 100 % ในการเพาะเลี้ยง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการวิจัย
และนับว่าเป็นเจ้าแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เพาะ“ถั่งเฉ้า“สายพันธุ์สีทอง สำเร็จ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากใบหม่อน ดักแด้ไหมต่างๆอาทิเช่น หม่อนสกัด 100 % ,ดักแก้กระป๋องปรุงรส ,สบูโปรตีนไหม จำหน่ายอีกด้วย
นายศิวณัฎฐ์ ภูพิเศษศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายบริหาร หจก.เรือนไหม-ใบหมอน กล่าวว่า ถั่งเฉ้าเป็นเห็ดชนิดหนึ่ง ดั้งเดิมมาจากธิเบต เป็นเชื้อราที่เข้าไปเพาะตัวอยู่ในตัวหนอน ซึ่งเป็นคำในภาษจีนที่แปลว่าหญ้าหนอน คือฤดูหนาวเป็นหนอน ฤดูร้อนเป็นหญ้า ถั่งเฉ้ามีสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงอยู่ 4 สายพันธุ์ 1.ถั่งเฉ้าธิเบต 2.ถั่งเฉ้าหิมะ 3.ถั่งเฉ้าสีทอง 4.ถั่งเฉ้าว่านจักจั่น ซึ่งถั่งเฉ้าที่เราเพาะเลี้ยงเองนี้เป็นถั่งเฉ้าสีทองซึ่งเพาะเลี้ยงในห้องปลอดเชื้อและควบคุมอุณหภูมิ ใช้ดักแด้ไหมเป็นโปรตีนเสริม มีระยะเวลาในการเลี้ยงอยู่ที่ 5 เดือน ก่อนส่งขายในรูปแบบถั่งเฉ้าแห้ง ปัจจุบันราคา ขายส่งอยู่ที่ 60,000-80,000 บาท/กิโล
นอกจากนี้ยังมีในรูปแบบของถั่งเฉ้าพร้อมดื่ม ในอนาคตจะทำเป็นรูปแบบเม็ดจำหน่ายด้วย ในขณะนี้เรากำลังพัฒนาไปสู่การเพาะเลี้ยงถั่งเฉ้ามาจากดักแด้ไหม โดยใช้ดักแด้ไหม 100 % ในการเพาะเลี้ยง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการวิจัยอยู่ และหากสำเร็จก็จะเป็นถั่งเฉ้าที่เป็นรูปดักแด้ไหม คล้ายกับถั่งเฉ้าของธิเบตที่เกิดจากธรรมชาติและเป็นรูปตัวหนอน ซึ่งก็จะมีราคาสูงขึ้นตามมา ข้อแตกต่างระหว่างถั่งเฉ้าธิเบตและถั่งเฉ้าสีทองคือถั่งเฉ้าธิเบต เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ในหนึ่งฤดูจะเก็บได้เพียงครั้งเดียวและมีปริมาณไม่มาก จึงทำให้ราคาแพง สนนราคาอยู่ที่ 1,500,000-2,000,000 บาท/กิโลกรัม
ส่วนคุณสมบัติและสรรพคุณนั้นจะอยู่ใกล้เคียงกัน แต่ราคาถั่งเฉ้าสีทองจะถูกกว่า ในประเทศไทยที่ทำอยู่ เท่าที่ทราบจะมีที่ กรุงเทพฯ สิงห์บุรี และเชียงใหม่ สำหรับจังหวัดสุรินทร์เราเป็นเจ้าแรกของจังหวัด และในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และถือว่าเป็นเจ้าแรกที่ใช้ดักแด้ไหมเป็นโปรตีนเสริมให้กับถั่งเฉ้าสีทอง
ถั่งเฉ้าสีทองมีสารออกฤทธิ์สำคัญ คือ สารคอร์ไดซิปิน (Cordycepin) หรือ คอร์ไดซิปิค แอซิด (Cordycepic acid) เช่นเดียวกับถั่งเฉ้าจากทิเบต ซึ่งช่วยดึงเอาออกซิเจนมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อร่างกายมีอาการเหนื่อยล้า หรือต้องขึ้นที่สูง จะช่วยให้เราไม่เหนื่อยง่าย ทำให้เซลล์ในร่างกายได้รับออกซิเจนได้สูงขึ้น
ทั้งนี้ในถั่งเฉ้าสีทอง ยังพบสารโพลิแซกคาไรด์(Polysaccharide) หรือ เบต้ากลูแคน(Beta glucan) โดยปกติพืชทั่วไป มักจะพบเบต้ากลูแคน 14 แต่ว่าในถั่งเฉ้าสีทองจะพบเบต้ากลูแคน 13 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายของเราสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น โดยการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดขาวขึ้นมา ทั้งนี้ถั่งเฉ้ายังช่วยบำรุงตับบำรุงไต ให้ตับและไตสามารถทำงานได้อย่างสมดุลกัน สำหรับคนทั่วไปจะเรียก เห็ดตัวนี้ว่ายาโด็ป
นายอาทร แสงโสมวงศ์ ผู้จัดการ หจก.เรือนไหม-ใบหมอน กล่าวว่า ที่ตั้งโรงงานอยู่ที่ ม.8 บ้านกะทม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ เส้นทางที่จะขึ้นเขาสวาย ตอนนี้ห้องเพาะถั่งเฉ้ามีอยู่ 1 ห้อง เป็นห้องปรับอากาศ ขนาด 2.5x2,5 เมตร ใช้งบฯก่อสร้างประมาณไม่เกิน 5 หมื่นบาท ตอนนี้ได้ผลผลิตที่เป็นถั่งเฉ้าสด 100 กก.ต่อ 5 เดือน เมื่อนำมาทำเป็นถั่งเฉ้าแห้งจะเหลืออยู่ประมาณ 10 ก.ก. ราคาจำหน่ายอยู่ ณ เวลานี้ ที่เป็นการขายส่งไป ตกกิโลละ 6 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตามในอนาคตมีโอกาสที่จะเปิดอบรมให้กับเกษตรกรที่สนใจ แต่ยังคงต้องรอการวิจัยต่อยอดให้แล้วเสร็จสมบูรณ์เสียก่อน เพราะการเพาะถั่งเฉ้าไม่ได้เพาะได้ง่ายดายนัก ต้องเพาะในขวดแก้วและอุณหภูมิที่เหมาะสมและคงที่ตลอด 5 เดือน
ที่มา posttoday
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!