จั๊กจั่นทะเลตายเกลื่อนหาด นักวิชาการชี้อุณหภูมิเปลี่ยน
"ประหลาดสัตว์ทะเล หนีน้ำขึ้นฝั่ง ตายเกลื่อน"
เรื่องราวของปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่สัตว์ทะเลนานาชนิดพร้อมใจกันขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดนับพันตัวครั้งนี้
เปิดเผยเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 3 มิ.ย.
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งอยู่ที่อุทยานสิรินาถ ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีสัตว์ทะเลนานาชนิดจำนวนมาก ขึ้นมาเกยหาดทรายแก้ว หมู่ 5 ต.ไม้ขาว โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
พากันมายืนมุงดูปรากฏการณ์ประหลาด ที่เกิดขึ้นบนผืนทราย พบสัตว์ทะเลนานาชนิด อาทิ จักจั่นทะเล ปูลม ปลิงทะเล และปูชนิดต่างๆ นับพันตัว ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และเสียชีวิตแล้วลอยขึ้นมาเกยบนชายหาดเต็มไปหมด
บางตัวที่ยังไม่ตายพยายามมุดลงทราย
แต่กลับไม่ยอมคลานลงทะเล แม้ว่าคลื่นจะซัดพวกมันไหลลงไปตามกระแส น้ำ แต่สุดท้ายก็คลานขึ้นมาบนชายหาดอีกตามเคย สร้างความแปลกใจให้แก่เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ไม่เคยเห็นปรากฏการณ์แบบนี้มาก่อน
นายเจษฎา ขุนแก้ว ผู้ควบคุมการดำน้ำลึก
ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล เปิดเผยว่า จักจั่นทะเลและสัตว์นานาชนิดเริ่มขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดทรายแก้วตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านและชาวประมงที่อยู่ตามชายหาดพากันเก็บไปขายและนำไปทอดกินจำนวนมากนับพันตัวมาแล้ว
เพราะก่อนหน้านี้จักจั่นทะเลเป็นสัตว์หายาก
จะขึ้นมาตามน้ำและกระแสคลื่นจากนั้นขุดหลุมฝังตัวเองลึกประมาณ 1 ฟุต การจะจับได้ต้องรอช่วงน้ำขึ้นแล้วนำตะแกรงลงไปขุดหาตามแนวชายหาดที่ระดับน้ำทะเลขึ้นถึง โดยชาวบ้านจะนำไปขายให้ร้านอาหารทะเลราคาตัวละ 1 บาท ปัจจุบันจักจั่นทะเลใกล้สูญพันธุ์ สามารถหาได้ที่หาดทรายแก้วตลอดแนว 6 กม.เท่านั้น
ส่วนเหตุการณ์จักจั่นทะเลจำนวนมากขึ้นมาเกยตื้นชายหาดนั้น
นายเจษฎากล่าวว่า ชาวบ้านไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวมาก่อนตลอดช่วง 20 ปีที่ผ่านมาปกติพวกมันจะถูกพัดมากับน้ำแล้วขุดหลุมฝังตัวเองทันทีแต่ช่วง 2 วันที่ผ่านมา เมื่อถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจะไม่ยอมขุดหลุมฝังตัวเองเหมือนทุกครั้ง แต่กลับนอนนิ่งบนชายหาดและไม่ยอมกลับลงทะเลกระทั่งตายในเวลาต่อมา
คล้ายกับว่าใต้ผืนทรายมีสิ่งผิดปกติ
สร้างความแปลกใจให้กับชาวบ้านและชาวประมงบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากอุณหภูมิน้ำทะเล หรือใต้ผืนทรายมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และไม่เหมาะสมสำหรับการฝังตัวของพวกมันอีกต่อไป
อาจจะร้อนขึ้น หรือเย็นลงก็เป็นได้
เช่นเดียวกับปลิงทะเล ปูลม และปูชนิดอื่นๆ เมื่อถูกน้ำทะเลพัดขึ้นมาบนชายหาดแล้ว กลับไม่ยอมวิ่งลงทะเล หรือวิ่งลงรูเหมือนทุกครั้ง แต่กลับนอนนิ่งและตายเกลื่อนตลอดแนวชายหาด ทำให้ชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมาดูและเก็บไปจำนวนมากเช่นกัน
นายเจษฎาเผยต่อไปว่า
สำหรับจักจั่นทะเลส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาเกยตื้นหาดนั้นจะมีไข่อ่อนริมหน้าท้อง ซึ่งเป็นช่วงปกติของทุกปีที่พวกมันจะขึ้นมาวางไข่บนพื้นทรายชายหาด แล้วกลับสู่ทะเล แต่ปีนี้พวกมันไม่วางไข่และไม่กลับลงสู่ทะเลเหมือนทุกครั้ง
แต่กลับขึ้นมาตายจำนวนมาก
สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น วันที่ 4 มิ.ย.นี้จะประสานไปยังสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลนทราบ เพื่อส่งนักวิชาการมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ