ฮือฮาเผาศพ จัดชนไก่ พนันหน้าไฟ

เปิดเผยเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 พ.ค. ที่เมรุวัดเวตวันธรรมาวาส หรือวัดเซิงหวาย แขวงและเขตบางซื่อ กทม. ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ นายก๊ก โคกบัว อายุ 81 ปี ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคถุงลมโป่งพอง มีลูกหลานญาติพี่น้องและญาติมิตรเดินทางมาร่วมงานหลายร้อยคน

โดยก่อนการประชุมเพลิงจะเริ่มขึ้น ทางเจ้าภาพประกาศจะมีการสาธิตการเล่น "การพนันหน้าไฟ" แทนการรำละครหน้าไฟเหมือนกับงานศพทั่วๆไป เรียกเสียงฮือฮาจากแขกเหรื่อจำนวนมาก

ช่วยกันหอบอุปกรณ์การเล่นพนันน้ำเต้าปูปลามาโชว์หน้าเมรุ ก่อนปูเสื่อลงกับพื้นแล้วล้อมวงนั่งเล่นพนันกันอย่างครึกครื้น โดยในวงพนันดังกล่าวไม่มีการใช้เงินสดแทงพนัน แต่ได้ใช้แบงก์ปลอมมาแทงพนันแทน

หลังเสร็จการพนันชุดดังกล่าวแล้ว เจ้าภาพยังได้จัดให้มีการพนันชนไก่อีก 2 คู่ สร้างความสนุกสนานเฮฮาให้กับผู้มาร่วมงาน ต่างส่งเสียงเชียร์กันลั่นวัด อย่างไรก็ตาม ระหว่างแสดงทั้ง 2 ชุด

โฆษกของงานได้ประกาศให้ผู้มาร่วมงานทราบว่า สิ่งที่เห็นเป็นแค่การสาธิต และอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะการพนันเป็นสิ่งไม่ดี

นายวิเชียร โคกบัว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 3 ซอยวัดไพร่ฟ้า ต.บางเดื่อ อ.เมืองปทุมธานี และดำรงตำแหน่งสารวัตรกำนัน ต.บางเดื่อ ลูกชายของผู้ตาย เปิดเผยถึงสาเหตุการจัดให้มีการเล่นพนันภายในงานศพของบิดาครั้งนี้ว่า ตั้งแต่จำความได้พบว่านายก๊กผู้เป็นพ่อใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่ในแวดวงการพนันมาตลอด

โดยเฉพาะการเล่นพนัน น้ำเต้าปูปลา ไฮโล และชนไก่ บิดาจะชอบมาก กระทั่งเมื่อปีที่แล้ว บิดาเกิดล้มป่วยด้วยโรคถุงลมโป่งพองเนื่องจากสูบบุหรี่จัด จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลโรคทรวงอก ต้องเข้าๆออกๆรักษาอยู่บ่อยครั้ง

ล่าสุดเข้ารักษาตัวเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 9 พ.ค. หลังจากที่บิดาเสียชีวิตแล้ว ลูกๆ หลานๆ จึงปรึกษากันว่าจะจัดงานศพให้กับบิดาได้มีความสุขเป็นครั้งสุดท้าย

โดยจะมีการสาธิตการเล่นพนันหน้าศพก่อนทำพิธีประชุมเพลิง คล้ายกับการแสดงโขนหรือรำละครหน้าไฟ เพราะเห็นว่าการพนันดังกล่าวเป็นสิ่งที่บิดาชื่นชอบ แม้จะทราบว่าการจัดการแสดงดังกล่าวเป็นสิ่งไม่ดี

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงวันนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นการจัดงานศพที่แปลกประหลาดเช่นนี้ เพราะมีการสาธิตการเล่นพนันให้ได้ชมก่อนพิธีประชุมเพลิง ครั้งแรกก็รู้สึกประหลาดใจ

แต่ก็เข้าใจว่าลูกๆต้องการทำให้พ่อเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ตนและผู้ตายคลุกคลีมาด้วยกันตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ รู้ว่าผู้ตายชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ แต่ถึงอย่างไรผู้ตายก็สอนลูกๆหลานๆทุกคนอยู่เสมอว่า การพนันเป็นสิ่งไม่ดี อย่าไปเล่น

ซึ่งการจัดงานครั้งนี้นับว่าเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแขกเหรื่อทุกคนจริงๆ

ขณะที่พระลูกวัดรูปหนึ่งเปิดเผยว่า ครั้งแรกที่รู้ว่าจะมีการเล่นพนันก็ตกใจเช่นกัน เพราะทางเจ้าภาพไม่ได้มาแจ้งให้ทางวัดทราบก่อน แต่พอรู้ว่าเป็นแค่การสาธิตก็เบาใจ

และเข้าใจในเจตนาของเจ้าภาพ อาจจะไม่ ค่อยเหมาะสมบ้าง แต่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดกฎหมาย และไม่อยากให้งานอื่นๆเอาไปเป็นตัวอย่าง น่าจะทำอะไรที่ดีกว่านี้

อย่างไรก็ตาม ขอฝากเตือนไปยังพุทธศาสนิกชนทุกคนว่า การพนันเป็นสิ่งไม่ดี พระพุทธองค์ทรงห้ามไว้ และ การตอบแทนบุญคุณบิดามารดาที่ดีที่สุด คือการเป็นคนดีของสังคม เลี้ยงดูให้ความรักความเอาใจใส่ท่านเมื่อมีชีวิตอยู่จะดีกว่า

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ