โผล่อีกช้างน้ำขายตัวละ5ล.ระวังโดนหลอก

ชาวกะเหรี่ยงพบช้างน้ำสภาพสมบูรณ์ขนาด 2 นิ้ว มีงาและงวง นำมาเสนอขายคนไทยที่ศรัทธา

และเชื่อว่าเป็นสิริมงคล 5 ล้านบาท หัวหน้าฝ่ายโรงพยาบาลช้างและรองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ไม่เชื่อว่าช้างน้ำมีจริง

ช้างน้ำกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง

เมื่อนายสมบัติ พิมพา อยู่บ้านเลขที่ 520 หมู่ 4 ผู้ใหญ่บ้านวังตะเคียน หมู่ 4 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า มีทหารกะเหรี่ยงพุทธ (ดีเคบีเอ) ชื่อ จ.ส.อ.ติหน่าย อายุ 45 ปี สังกัดกองพล 999

ตรงข้ามบ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด

อ.แม่สอด จ.ตาก ได้นำช้างน้ำมาติดต่อขายให้คนไทย ด้านชายแดน อ.แม่สอด ที่สนใจจะซื้อในราคาตัวละ 5 ล้านบาท โดยช้างน้ำดังกล่าวมีขนาดเพียง 2 นิ้วเท่านั้น สภาพมีงวง งา เขี้ยว ขาครบสมบูรณ์

นายสมบัติ กล่าวว่า ช้างน้ำที่นำมาขายนี้

พบที่หมู่บ้านโคเซนิ ชานเมืองผาอ่าง รัฐกะเหรี่ยง บริเวณหนองน้ำระหว่างที่ชาวบ้านไปทอดแหหาปลา หนองน้ำดังกล่าวเป็นเขตพื้นป่าใหญ่ไม่มีสัตว์ใดๆ อาศัยอยู่ เพราะช้างน้ำนั้น

สัตว์ต่างๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จะเกรงกลัว

ไม่กล้าเข้าใกล้ ช้างน้ำดังกล่าวเสียชีวิต 7 วันแล้ว หลังถูกจับและชาวบ้านที่พบนำซากช้างน้ำไปย่างไฟไว้เพื่อไม่ให้เน่าเปื่อย

"ชาวกะเหรี่ยงที่พบช้างน้ำนำมาให้

ทหารกะเหรี่ยงพุทธฝากขายในฝั่งไทยเพราะเห็นว่ามีชาวไทยสนใจที่จะซื้อช้างน้ำไปเก็บรักษาไว้ เพราะถือว่าเป็นเรื่องดี ใครมีไว้ครอบครองจะมีโชค-ให้เงินทองไหลมาเทมา ไม่มีอันตราย มีแต่ความสุข" ผู้ใหญ่บ้านวังตะเคียน กล่าว

ทั้งนี้ ช้างซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ที่รู้จักกันดี

แต่เมื่อเป็นช้างน้ำก็จะมีขนาดเล็กเพียง 2 นิ้ว มีรูปร่างลักษณะเหมือนช้างทุกอย่าง ส่วนใหญ่จะพบในรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า และเมื่อนำมาขายฝั่งไทยจะมีราคาไม่ต่ำกว่าตัวละ 3-5 ล้านบาท คนที่ซื้อส่วนใหญ่ซื้อมาเก็บไว้เป็นสิริมงคล

อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม 2546

เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ตาก อ้างว่าได้ช้างน้ำมาจากฝั่งพม่าบริเวณรอยต่อชายแดนไทย-พม่าเช่นเดียวกัน จากชาวพม่าจับช้างน้ำได้บริเวณสระน้ำบนภูเขาสูงในฝั่งพม่า และมีชีวิตอยู่ได้เพียง 7 วันก็ตาย

ซึ่งช้างน้ำดังกล่าวมีลักษณะเหมือนช้าง

มีเนื้อ มีหนัง มีขน มีตา งาที่หัก มีความสูงประมาณ 3 นิ้ว ความยาว 5 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 300 กรัม และตายมาประมาณกว่า 1 เดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม ช้างน้ำที่พบคราวนั้นจับมาได้เพียง 7 วัน ก็เสียชีวิตเช่นเดียวกับช้างน้ำที่พบครั้งล่าสุดนี้

น.สพ.สิทธิเดช มหาวงศ์สกุล

รักษาการหัวหน้าฝ่ายโรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพบช้างตัวเล็กเหมือนที่อ้าง เชื่อว่าเป็นเรื่องหลอกหลวงกันทั้งสิ้น

ทางที่ดีควรส่งซากมาตรวจพิสูจน์ว่า

คืออะไร หากเป็นสิ่งมีชีวิตก็นำมาเปรียบเทียบดูว่า อยู่ในสายพันธุ์ใด เพียงแค่คำบอกเล่าและภาพถ่ายคงพิสูจน์อะไรไม่ได้ อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนอย่าไปเชื่อในสิ่งที่เห็น ทางที่ดีต้องมีการพิสูจน์ความจริงก่อน

น.สพ.ชิษณุ ติยะเจริญศรี

รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ช้างน้ำไม่มีจริง แต่ถ้ายืนยันว่าใช่ก็ส่งมาพิสูจน์ได้ว่า เป็นอะไรกันแน่ หากพบว่าเป็นดีเอ็นเอของสิ่งมีชีวิตที่ไม่เคยพบมาก่อน

ก็อาจเป็นหน้าใหม่ของวงการวิทยาศาสตร์

แต่มันไม่เป็นเรื่องจริงอย่างแน่นอน ทางที่ดีอย่าไปหลงเชื่อหรืองมงาย เมื่อหลายปีก่อนก็เคยมีข่าวลักษณะนี้ เป็นการหลอกลวงด้วยการเอาหนังสัตว์ชนิดหนึ่งมาห่อแล้วทำให้มีลักษณะคล้ายช้างขนาดเล็ก

"ถ้าอยากรู้ว่าเป็นช้างน้ำหรือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใด

ก็ต้องมีการพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยสามารถเอกซเรย์ดูโครงสร้างของกระดูก แต่หากไม่มีกระดูกก็นำเนื้อเยื่อมาตรวจหาดีเอ็นเอได้ เพื่อความชัดเจนว่าเป็นของพืชหรือสัตว์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากหรือไม่ก็ดึงขนใส่ซองจดหมายส่งมาที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ที่ไหนก็ได้ เพื่อหาข้อสรุป" น.สพ.ชิษณุ กล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก