ฝรั่งแดนน้ำหอม วิวาห์-กะเทยไทย

มีชาวต่างประเทศหลงเสน่ห์สาวประเภทสอง เหินฟ้ามาสู่ขอเพื่อร่วมชีวิตคู่กัน ที่บ้านเลขที่ 332 หมู่ 7 ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีการตั้งเต็นท์ 7 หลัง รอบๆ บริเวณบ้าน ตั้งโต๊ะจัดเลี้ยงกว่า 30 ตัว

โดยเจ้าบ่าวคือนายมิเชล โลเกล ชาวฝรั่งเศส อายุ 41 ปี สวมเสื้อพระราชทานสีครีม กางเกงขายาวสีดำ มีผ้าฝ้ายไทยคาดเอว เดินถือพานขันหมากนำสินสอดเป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมสร้อยคอทองคำและแหวนทอง หนักรวม 10 บาท ร่วมขบวนขันหมาก ซึ่งมีคณะกลองยาวแห่นำหน้า และมีชาวบ้านร่วมขบวนกันอย่างครึกครื้นตามถนนในหมู่บ้านอย่างเอิกเกริก

ผ่านประตูเงินประตูทอง เข้าไปในบ้านซึ่ง เจ้าสาวคือนายพรประสิทธิ์ โพธิหล้า อายุ 25 ปี ลูกเจ้าของบ้าน เป็นสาวประเภทสองผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว อยู่ในชุดกระโปรงลายลูกไม้สีครีม เกล้าผมปักด้วยปิ่นมุก หน้าตาสวยงามแทบดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย หน้าตายิ้มแย้มเปี่ยมไปด้วยความสุข นั่งรออยู่ในบ้านเพื่อทำพิธีผูกข้อมือตามประเพณีอีสาน

จากนั้นนายมิเชลได้มอบสินสอดให้แก่นายประภาศ โพธิหล้า อายุ 57 ปี และนางขันทอง โพธิหล้า อายุ 55 ปี พ่อแม่เจ้าสาว และสวมแหวนให้แก่กัน พร้อมแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางญาติมิตรร่วมเป็นสักขีพยานเนืองแน่น หลังเสร็จพิธีคู่บ่าวสาวได้ออกมาขอบคุณแขกเหรื่อกว่า 200 คน ตามโต๊ะจัดเลี้ยง

ครอบครัว ตนมีลูกชาย 3 คน และลูกสาวคนเล็ก 1 คน นายพรประสิทธิ์เป็นลูกคนที่ 3 มีนิสัยตุ้งติ้งคล้ายผู้หญิงตั้งแต่เล็กๆ ตนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต้องปล่อยไปตามกรรม ซึ่งนายพรประสิทธิ์ย้ายไปอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี หลายปี จนเมื่อเดือนที่แล้วโทรศัพท์มาบอกว่าจะขอแต่งงานกับหนุ่มฝรั่ง ตนได้เตือนให้คิดให้ดีเขาจะรับได้หรือ พ่อแม่เขาจะว่าอย่างไร นายพรประสิทธิ์ได้ย้ำว่า เขารักเรา พร้อมจะพาไปอยู่ฝรั่งเศสด้วย ต่อมาอีก 2 อาทิตย์ นายมิเชลโทรศัพท์มาสู่ขอ ถามว่าจะเรียกร้องเงินทองอย่างไร ก็ตอบไปว่าไม่เรียกร้องอะไร แล้วแต่จะให้มาและขอให้ดูแลลูกเราให้ดีก็แล้วกัน

ตนเป็นแบบนี้ ตั้งแต่เด็กๆ แล้ว โชคดีที่พ่อแม่ไม่ว่าอะไร หลังเรียนจบ ป.6 ได้ไปเรียนต่อที่สิงห์บุรี จากนั้นเดินทางเข้าไปทำงานนวดแผนโบราณที่กรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่พัทยา ทำงานเป็นนักแสดงคณะรัชดาคาบาเรต์นาน 6 ปีแล้ว รู้จักกับนายมิเชล เพราะนายมิเชลมาดูการแสดง และได้ติดต่อกันมาได้ 5 เดือนเศษ กระทั่งนายมิเชลขอแต่งงาน

และนายมิเชลก็ไม่ยอมให้แปลงเพศด้วย ส่วนนายมิเชลทำงานเกี่ยวกับภาษีอากร จะบินไปๆ มา ๆ แต่ในช่วงพักร้อนจะหยุดงานยาวถึง 3 เดือน เรื่องการแต่งงานครั้งนี้ทางบ้านของเจ้าบ่าวก็รู้เรื่องดี หลังแต่งงานจะไปฮันนีมูนที่ทิเบตและญี่ปุ่น จากนั้นจะเดินทางไปอยู่ด้วยกันที่ประเทศฝรั่งเศส

เดินทางมา เที่ยวประเทศไทย 6 ครั้ง และได้ไปเที่ยวจนทั่วไทย กระทั่งไปพักผ่อนที่พัทยา ทำให้ได้เจอกับเจ้าสาวที่รัชดาคาบาเรต์ และติดต่อคบหากันมาตลอด ตนรักเมืองไทย และชอบคนไทย นายพรประสิทธิ์ เจ้าสาว เป็นคนนิสัยดี เอาใจเก่ง รู้จิตใจตน ครอบครัวของตนก็ไม่ว่าอะไร ตามใจเรา คบหากันเพียง 5-6 เดือน ก็ตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน ส่วนที่เลือกแต่งงานวันนี้ เพราะตนเกิดวันที่ 12 เม.ย. ค.ศ.1966 เลยตกลงแต่งงานในวันนี้ และจะพาไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส และยืนยันว่าจะดูแลเจ้าสาวตลอดไป

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ