พท.ปูดกลุ่มการเมืองเบื้องหลัง'ม็อบยาง'
พท.ปูดกลุ่มการเมืองเบื้องหลังม็อบสวนยาง ชี้ญาตินัการเมืองกักตุนเก็งกำไร ชี้คลื่นใต้ 'ประชาธิปัตย์'จี้เปลี่ยนตัว'อภิสิทธิ์' ขู่ปิดอภิปราย หากฝ่ายค้านเล่นเกมเดิม
15 ก.ย. 56 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีม็อบสวนยางพาราปิดถนนสองจุดที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยยืนยันเรียกร้องให้รัฐบาลประกันราคายางอยู่ที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม ว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจกับค่าชดเชย 2,520 บาทต่อไร ตามมติคณะรัฐมนตรี แต่มีคนส่วนน้อยไม่พอใจเรียกร้องให้ประกันราคายางที่ 120 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องที่มีประเด็นการเมืองอยู่เบื้องหลัง คนที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มี 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่ไปปลุกระดมให้ปิดถนน ซึ่งจุดที่ปิดถนนห่างจากบ้านนักการเมืองนิดเดียว เป็นการใช้ความเดือดร้อนของเกษตรกรมาทำลายเสถียรภาพรัฐบาล 2.กลุ่มพ่อค้าที่มีการกักตุนยางไว้หลายแสนตันเพื่อเก็งกำไร เป็นกลุ่มที่ซื้อยางเก็บไว้ในราคาต่ำตั้งแต่ช่วงที่รู้ว่าจะมีการปิดถนน หากได้ราคา 120 บาทต่อกิโลกรัมตามที่ต้องการ กลุ่มพ่อค้านี้จะได้กำไรหลายร้อยล้านบาท ทราบว่า มีพ่อค้ารายหนึ่งเป็นญาติของนักการเมืองที่คนใต้รู้จักดีกักตุนยางไว้ถึง 2 แสนตัน ถ้ายังไม่หยุดยุยง จะเปิดเผยชื่อให้ทราบว่า เป็นญาติของนักการเมืองคนใด ตนมีหลักฐานครบถ้วนเรื่องกักตุนยางทั้งคลิปและภาพ
ปูดคลื่นใต้น้ำปชป.จี้เปลี่ยนตัว"อภิสิทธิ์"
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ว่า ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยตรวจสอบแล้วว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านมาสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็เคยออก พ.ร.บ.และพ.ร.ก.กู้เงินในโครงการไทยเข้มแข็งมาแล้ว ดังนั้น การยื่นคัดค้านพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เป็นการขัดขวางความเจริญของประเทศ
ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์หลายคนปรารภว่า ถ้าร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทผ่าน รัฐบาลจะได้ผลงาน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านยาว ไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาล จึงอยากรู้ว่า การคัดค้านเรื่องนี้เพราะกลัวเป็นผลงานของรัฐบาลหรือไม่ ทราบว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เกิดคลื่นใต้น้ำในพรรค ที่สมาชิกเอือมระอาบทบาทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลายคนเป็นห่วงการทำหน้าที่ในและนอกสภาของนายอภิสิทธิ์กำลังมีปัญหา รวมถึงเป็นห่วงคดีการสลายการชุมนุม คดีหนีทหาร และการให้สัมภาษณ์ดูหมิ่นสตรี จนส่งผลต่อภาพลักษณ์พรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากถามนายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รู้ว่าจริงหรือไม่ที่จะเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากอภิสิทธิ์เป็นคนอื่น
ส่วนที่มีการอ้างถึงการตัดงบประมาณของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ศาลยุติธรรมและองค์กรอิสระอื่นๆนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะมีการเพิ่มงบประมาณจากปี 2556 ถึง10 เปอร์เซ็น
เตรียมประชุมส.ส. รับพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้าน ๆ ขู่ปิดอภิปราย หากฝ่ายค้านเล่นเกมส์เดิม
นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า ในวันที่ 17 ก.ย. พรรคเพื่อไทยจะประชุม ส.ส.เพื่อทำความเข้าใจถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ....(พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) วาระ 2 ในการประชุมสภาในวันที่ 19-20 ก.ย.โดยจะจัดทีมแบ่งหน้าที่ ส.ส.อภิปรายสนับสนุนร่างเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท พร้อมขอความร่วมมือจาก ส.ส.ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย.ให้งดภารกิจในต่างจังหวัด และอาจต้องเตรียมความพร้อมช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หากการอภิปรายยืดเยื้อ จึงขอให้ ส.ส.อยู่ครบองค์ประชุม และรักษาภาพลักษณ์การประชุม ประท้วงให้น้อยที่สุด
ทั้งนี้ ในวันที่ 16 ก.ย. จะมีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อกำหนดกรอบเวลาการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และจะประสานงานกับฝ่ายค้านไม่ให้การอภิปรายยืดเยื้อ เชื่อว่า เวลา 2 วันน่าจะเพียงพอ แต่หากฝ่ายค้านยังใช้วิธีการเดิม อภิปรายยืดเยื้อ ก็จะเสนอปิดการอภิปรายทันที ไม่ใช่การปิดปาก แต่เป็นการทำตามข้อบังคับ เพราะการสู้กับคนที่ไม่เคารพกติกาต้องใช้กติกาอย่างเข้มงวด
ยันสุดซอย โหวตวาระ 3 แก้รธน.ที่มาสว. คาดไม่เกิน 2 ต.ค.นี้
นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 พร้อมยื่นถอดถอน ส.ส.ที่โหวตผ่านร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ว่า เป็นการไม่เคารพเสียงข้างมาก ทำตัวเป็นเผด็จการเสียงข้างน้อย การแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยระบุว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา และเสนอแนะให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราได้ ดังนั้นเมื่อสมาชิกรัฐสภาดำเนินการตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำไว้ จึงไม่ต้องดูข้อกฎหมาย
ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า การแก้รัฐธรรมนูญเป็นการทำหน้าที่ของรัฐสภา ศาลรัฐธรรมนูญก้าวล่วงไม่ได้ ดังนั้นหลังครบกำหนด 15 วัน ในวันที่ 27 ก.ย.แล้ว จะเดินหน้าลงมติวาระ 3 อย่างแน่นอน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในพรรคสนับสนุนให้โหวตวาระ 3 โดยไม่สนใจคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าจะลงมติวาระ 3 ได้ประมาณวันที่ 27 ก.ย.- 2 ต.ค. เรื่องนี้เราไม่กลัว และไม่ใช่การท้าทายอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นไปตามหลักการแบ่งแยกอำนาจ ถ้ากลัวไปทุกเรื่อง บ้านเมืองก็เดินหน้าไม่ได้ หรือถ้ามีอำนาจแล้วไม่ทำ ก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตามยืนยันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่ฝ่ายค้านพยายามมั่วให้เหมือนเป็นการล้มล้างการปกครอง เป็นจระเข้ขวางประชาธิปไตย และหากมีการยื่นถอดถอนส.ส.และส.ว.ที่เข้าชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ตนจะก็ยื่นถอดถอนส.ว.ที่ยื่นคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เช่นกัน เพราะเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน เนื่องจากหากร่างรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.มีผลบังคับใช้ ทำให้ส.ว.สรรหาต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที ดังนั้นการยื่นคัดค้าน ถือว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นกัน