3 พรรคฝ่ายค้าน ลั่น หมดเวลาประสาน เมินปาหี่รัฐบาลแห่งชาติ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มีนาคม 2549 15:25 น.
3 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกาศจุดยืนต้านแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ อภิสิทธิ์ ชี้เป็นเกมการเมืองสร้างภาพความสามัคคีหลอกประชาชน เพียงแค่หวังรักษาอำนาจตัวเองเอาไว้ เดินหน้าชูธงปฏิรูปการเมือง-ฟื้นฟูเจตนารมณ์ รธน. ขณะที่ บรรหาร ย้ำหมดเวลาประสาน ย้อนรัฐบาลแห่งชาติ-เพื่อชาติไหน ชี้เข้าร่วมแล้วเป็น ครม.ใบ้ขอนั่งดูดโอเลี้ยงนอกวงดีกว่า ด้าน เสธ.หนั่น จี้นายกฯ เสียสละ เลิกปลุกปั่นความแตกแยก
วันนี้ (27 มี.ค.) ที่ร้านช้อนเงินช้อนทอง เมื่อเวลา 10.30 น. พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน พร้อมแกนนำคนอื่น เช่น นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รองเลขาธิการพรรคชาติไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมหารือร่วมกันถึงสถานการณ์ทางการเมือง และข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการหารือร่วมกันว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้ประชุมปรึกษาหารือกันถึงสถานการณ์ของบ้านเมือง ซึ่งช่วงนี้คงต้องพบปะหารือกันค่อนข้างถี่เพราะสถานการณ์ทางการเมืองโดยทั่วไปน่าเป็นห่วง เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ ได้ไปปราศรัยและเสนอแนวความคิดรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้พรรคการเมืองทั้ง 3 เข้าไปร่วมรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ที่ประชุมจึงได้หารือถึงเรื่องนี้ โดยทั้ง 3 พรรคเห็นตรงกันว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพยายามเสนอไม่ได้ตรงกับแนวทางการแก้ปัญหาของสังคม และไม่เคยเป็นข้อเรียกร้องของพรรคการเมือง หรือภาคประชาชน ทั้ง 3 พรรคยืนยันว่าไม่อยากให้เกิดความเข้าใจว่าการตัดสินใจในการดำเนินงานทางการเมืองของเราในขณะนี้มีจุดประสงค์ที่จะเข้าไปมีตำแหน่งหรือถืออำนาจรัฐ แต่ที่เราพยายามทำ คือ ทำอย่างไรให้เกิดการปฏิรูปการเมืองได้อย่างแท้จริง และฟื้นฟูเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสิทธิเสรีภาพ เช่น การตรวจสอบและความเป็นธรรม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การปราศรัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการสะท้อนความคิดของนายกฯไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง หรือกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อหวังผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่ใช่จุดมุ่งหมายของเรา แต่เป็นการพยายามสร้างภาพลวงตามากกว่าว่าเป็นแนวทางของการปรองดองเพื่อแก้ไขปัญหาของชาติ แต่ในความเป็นจริงการไปตั้งรัฐบาลแห่งชาติและมีสภาฯ ซึ่งมี ส.ส.จากพรรคเดียว จะกลายเป็นรัฐบาลที่ไม่มีการตรวจสอบ และไม่มีหลักประกันอะไรว่าจะมีการปฏิรูปการเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชน
เราจึงมองว่าเป็นความพยายามของ พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะมีความกังวลมากขึ้นทุกวันในแง่ของความชอบธรรมของตัวเอง ทั้งหลังและก่อนเลือกตั้ง จึงพยายามเสนอข้อเสนอเหล่านี้ให้เกิดความสับสนในหมู่ประชาชน และต้องการที่จะหาทางอย่างไรก็ได้ที่จะต่ออายุในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของตัวเอง ดังนั้น จึงชัดเจนว่าไม่ใช่ข้อเสนอที่จะเป็นประโยชน์ นายอภิสิทธิ์ กล่าว และว่าพร้อมกันนี้ได้เรียนให้หัวหน้าพรรคชาติไทย กับพรรคมหาชน ได้ทราบข้อเสนอที่ได้เสนอไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ การปราศรัยที่ท้องสนามเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา อยู่บนพื้นที่ความคิดอะไร ซึ่งก็เห็นตรงกันว่าข้อเสนอของเราเป็นทางออกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และไม่มีการเว้นวรรครัฐธรรมนูญ หรือระบอบประชาธิปไตยแต่อย่างใด แต่ผู้ที่จะดำเนินการตามข้อเสนอ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ จะดำเนินการตามข้อเสนอก็จะเป็นการเว้นวรรคเฉพาะตัวเอง ไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตยหรือรัฐธรรมนูญ และจะนำไปสู่ความปรองดองการแก้ปัญหาของสังคมได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองก่อนเลือกตั้งเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีปัญหาที่รอการสะสางจำนวนมาก ในส่วนของการจัดการการเลือกตั้ง คือปัญหาการทุจริต กระบวนการสมคบกันสร้างผู้สมัครขึ้นมา เป็นเรื่องที่ต้องรอคำตอบ ขณะเดียวกันก็มีความคิดที่แตกต่างกันในสังคมสูงมาก และหากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจไม่ได้แสดงท่าทีในการสนใจถึงข้อเรียกร้องต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะมีความตึงเครียดมากขึ้น จึงเป็นสิ่งที่เราพยายามพูดถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเป้าหมายคือการหลอมรวมประชาชนทั้งชาติให้เป็นหนึ่งเดียว
เมื่อถามว่า พรรคได้เสนอทางออกให้กับนายกฯ แต่ถูกปฏิเสธ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯ คงกลับไปคิดอีกได้ เพราะสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอได้รับการปฏิเสธจากทุกฝ่าย ซึ่งนายกฯคิดเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อถามว่าใกล้เลือกแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คุณทักษิณคิดเร็ว ถ้าตั้งใจคิดจริงๆ คงไม่นาน นายกฯ อย่าไปหลอกตัวเอง หรือหลอกใครเลยว่าหลังเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.แล้วปัญหาจะจบอยากให้เอาคำตอบของพวกเราไปคิด ถ้าใช้เป็นก็จะเข้าใจว่าเป้าหมายพวกเราไม่ใช่ต้องการกุมอำนาจรัฐ แต่เราต้องการปฏิรูปการเมือง ลองไปคิดดูวันนี้คุณทักษิณเสนอในสิ่งที่คิดว่าคนอื่นเขาอยากได้มากที่สุด แต่ยังได้รับการปฏิเสธ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แสดงท่าทีว่าได้ถอยไปมากแล้ว ขอย้ำว่า ข้อเสนอของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้มีการถอยในเรื่องที่เป็นปัญหาหลัก เราไม่ได้เจาะจงในแง่ของตัว พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ทำอย่างไรในเรื่องของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลในลักษณะที่ว่าจะไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีการปฏิรูปอะไรเลย และเงื่อนไขที่เป็นปัญหากับรัฐธรรมนูญก็ยังมีอยู่ เมื่อถามว่าจะทำหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงต้องรอดูสักระยะหนึ่ง เพราะวันนี้ท่านก็คงรอดูคำตอบอยู่ว่ารัฐบาลแห่งชาติจะเกิดหรือไม่
ส่วน นายบรรหาร กล่าวถึงกรณีที่เคยอาสาจะเป็นผู้ประสานในทางการเมืองเพื่อหาทางออกวิกฤตในขณะนี้ว่า ในตอนนี้ยอมรับว่าสายเกินไป แล้วจะประสานได้อย่างไร เพราะต่างฝ่ายต่างรุนแรงเข้าหากัน ท่าทีของแต่ละคนก็ไม่ยอม สิ่งที่เกิดปัญหามันอยู่ที่ใครก็รู้กันอยู่แล้ว ถ้าท่านผู้นั้นแก้ไข มันจบไปนานแล้ว การแก้ไขไม่ได้อยู่ฝ่ายค้าน และม็อบพันธมิตร อยู่ที่รัฐบาล เช่น เรื่องการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รัฐบาลก็อย่าพูดเลี่ยงไปเลี่ยงมา ซึ่งมันไม่มีความชอบธรรม เป็นเรื่องผิดเต็มประตูควรจะยอมรับ เพราะฉะนั้นก็เป็นห่วงบ้านเมืองว่าจะไปอย่างไร จึงจะเกิดผลดีกับประเทศชาติและประชาชน เมื่อถามว่าท่าทีของนายกฯยอมโดยประกาศจะตั้งรัฐบาลแห่งชาติ กล่าวว่า
ไม่ลงเลือกตั้งแล้วจะเอารัฐบาลแห่งชาติ ชาติไหน จะเป็นไปได้อย่างไร ผู้แทนพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ไม่มี แล้วเราจะเข้าไปอยู่ในลักษณะไหน ถ้าเป็นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา รัฐมนตรีก็พูดอะไรไม่ได้เลย อยู่ข้างนอกนั่งกินโอเลี้ยงดีกว่า
เมื่อถามว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่มีใครคาดคะเนว่าการเมืองในขณะนี้จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะการเมืองขณะนี้มันแตกต่างไปจากหลายครั้งที่ผ่านมา ไม่มีในตำรา ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อถามว่าบ้านเมืองขณะนี้บอบช้ำกว่าทุกครั้งที่มีเหตุในทางการเมืองหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องดูว่ามันบอบช้ำลักษณะไหน มีคนตายหรือเปล่า ต้องดูว่ารุนแรงแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็ถือว่ารุนแรงพอสมควรเห็นประชาชนเข้ามาชุมนุม หลายจุดก็มีจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้สิทธิของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และมีการนำไปตีความเข้าข้างฝ่ายตนเอง นายบรรหาร กล่าวว่า ตนเรียนว่า พล.อ.เปรม ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และอุปนิสัยของท่านเองเมื่อมีหน้าที่ในการที่จะไปเลือกตั้ง ท่านก็ต้องไป แต่ไม่ได้หมายความว่า ท่านจะเบี่ยงเบนไปทางหนึ่งฝ่ายใด ตนสามารถพูดแทนท่านได้เลย เมื่อถามว่าส่วนที่พรรคไทยรักไทยนำไปอ้างเข้าข้างตัวเอง นายบรรหาร กล่าวว่า มันจะอ้างก็อ้างได้
ขณะที่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ไม่รู้จะประเมินสถานการณ์การเมืองอย่างไร แต่ตนยันว่า เลือกตั้งไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะเกิดความแตกแยกของคนในชาติ จึงอยากฝากไปถึงนายกฯให้ไปดูว่ามีทางใดที่จะทำให้คนในชาติไม่แตกแยก ท่านควรจะเสียสละ