ย้ำ ทรท. ไม่เกี่ยว กลุ่มผู้ชุมนุม พีทีวี

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงถึงกรณีที่มีการมองว่าพรรคไทยรักไทยเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมพีทีวีที่ท้องสนามหลวงว่า คนที่ไปฟังการชุมนุมอาจมีบางคนที่เคยสนับสนุนหรือยังสนับสนุนพรรคไทยรักไทยอยู่

แต่การจะดูว่าพรรคการเมืองหนึ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มใดหรือไม่ ต้องดูนโยบายหรือท่าทีของพรรคนั้น ตนประกาศชัดเจนมาตลอดว่าพรรคไทยรักไทยต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยโดยแสดงความเห็นผ่านสื่อมวลชนหรือไปร่วมประชุมสัมมนา

แต่จะไม่ใช้การเคลื่อนไหวทางการเมืองลักษณะเดินขบวน การที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพยายามเชื่อมโยงว่าพรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ชุมนุมพีทีวีนั้น อยากให้ย้อนคิดถึงในอดีตมีการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลทักษิณ พรรคการเมือง บางพรรคพูดจาสนับสนุนการเคลื่อนไหวชัดเจน เรียกร้องประเด็นร่วมกันหลายประการ

ถ้าพรรคการเมืองมีนโยบายเห็นดีเห็นงามด้วย พฤติกรรมก็จะเป็นแบบนั้น

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีอดีต ส.ส.ของพรรคไทยรักไทยไปปรากฏตัวในที่ชุมนุมนั้น น่าเห็นใจผู้ที่ไปสังเกตการณ์ เพราะอยากเห็นการใช้สิทธิเสรีภาพประชาชนวิพากษ์วิจารณ์บ้านเมืองมากขึ้น แต่เมื่อพรรค การเมืองประกาศนโยบายและท่าทีไปแล้วว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง บรรดาแกนนำและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคควรปฏิบัติตามนโยบาย

โดยผู้บริหารพรรคจะหารือกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหามาตรการทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าไม่ควรทำอะไรให้ถูกตีความหรือใส่ร้ายป้ายสีว่าอยู่เบื้องหลัง การชุมนุม อย่างไรก็ตามต้องขอความเห็นใจจากสังคมด้วยว่าการจัดแถวจะหวังให้ครอบคลุมสมาชิกพรรคทุกคนไม่ได้ พรรคไม่ได้ปิดกั้นการชุมนุม เพียงแต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่ชัดเจน สถานการณ์แบบนี้พรรคต้องวางตัวให้เหมาะสม

นายจาตุรนต์กล่าวด้วยว่า จากการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานของ คมช.และรัฐบาล พบว่าระยะเวลาที่เหลือของการปกครองอาจทำความเสียหายมากขึ้นอีกในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านที่สำคัญ 4 ด้าน คือ

1. คงความเป็นระบบเผด็จการด้วยการสืบทอดอำนาจ
2. การตรวจสอบการทุจริตคอรัปชันไม่ได้ผล ไม่น่าเชื่อถือ ไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม
3. เรื่องความแตกแยกในสังคม เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันเองใน คมช. และกลไกของ คมช. จนทำให้เกิดความแตกแยกทางความคิดมากขึ้น
4. ความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างรุนแรง จากนโยบายที่ผิดพลาด และการบริหารแบบไม่บริหารของรัฐบาล

นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า คณะรัฐประหารและกลไกที่สร้างขึ้นไม่มีความสอดคล้องกันในการแก้ปัญหาบ้านเมือง แต่กลับมุ่งทำลายล้างรัฐบาลชุดที่แล้วและผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้งมีภาพของการพยายามชี้นำการร่างรัฐธรรมนูญ พยายามสืบทอดอำนาจเผด็จการ ล่าสุดจะนิรโทษกรรมให้ตัวเองและนิรโทษกรรมให้ คตส. เท่ากับทำให้รัฐธรรมนูญ มีค่าเพียงแค่ประกาศนียบัตรรับรองระบบเผด็จการ

แสดงให้เห็นว่าทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย ใช้กลไกของรัฐตาม อำเภอใจ ไม่ต่างจากศาลเตี้ย

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ