เมื่อวันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.20 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงการเรียกประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาส.ว. ตลอดทั้งสัปดาห์ ว่า คิดว่าประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่าสัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.ย. เป็นการประชุมแบบ 5 วันรวด
ซึ่งความขยันของสมาชิกรัฐสภา ไม่ได้เป็นการสะท้อนความตั้งใจทำงานเพื่อสนองตอบประชาชน แต่เป็นการสะท้อนภาพสภาทาสอย่างแท้จริง วันนี้ ส.ส.และส.ว.ซีกรัฐบาล มีเป้าหมายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เป็นไปเพื่อการต่ออายุให้ส.ว.ชุดปัจจุบันลงสมัครรับเลือกตั้ง และเพื่อญาติพี่น้อง ลงสมัครรับเลือกตั้งได้ สิ่งเหล่านี้นักการเมืองที่สนับสนุนให้ประชุมติดต่อกัน 5 วันต้องละอายใจ
เพราะรับเงินเดือนภาษีประชาชนแต่เอาเวลาไปพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาของตัวเอง นี่คือสิ่งสะท้อนถึงความอัปยศของรัฐสภา ที่ตกอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้มีอำนาจ
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ทั้งที่มีปัญหาเรื่องสินค้าแพง และราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ ซึ่งรัฐบาลบอกว่าจะแก้ปัญหาประชาชน แต่กลับเอาเวลาไปแก้รัฐธรรมนูญ เป็นการสะท้อนตัวตนของพรรคเพื่อไทยอย่างดีที่สุด ว่าเป้าประสงค์แรกคืออะไร รัฐบาลไม่เคยให้ความใส่ใจดูแลปัญหาของประชาชน แต่กล่าวว่าประชาชนรู้สึกไปเอง
ทั้งที่ประชาชนไม่ได้คิดไปเองเพราะรู้สึกว่า ถูกทอดทิ้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและรมว.กลาโหม กลับไปต่างประเทศ จึงแปลกใจที่น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดว่าคนเราต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน เรียกร้องความรับผิดชอบของส.ว. ไม่ทราบว่ากล้าพูดได้อย่างไร เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นส.ส. ทำไม่ไม่ให้ความสำคัญกับหน้าที่ตัวเอง เชื่อว่าเข้าสภาฯน้อยที่สุดของคนเป็นส.ส.
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯนั้น หลายคนออกมาโต้เถียงว่า ไปกระชับความสัมพันธ์ และการลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่นายกฯ เดินทางบ่อยเกินไป 2 สัปดาห์ ต่อครั้ง โดยทิ้งปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งปัญหาราคายาง ค่าครองชีพ ดังนั้นการอ้างว่าไปเกิดการค้าการลงทุนก็ไม่เป็นความจริง เพราะไทยขาดดุลการค้ามาตลอด 3 ปี ประเทศไทยจึงไม่ได้ประโยชน์จากการเดินทางไปต่างประเทศของนายกฯแน่นอน