“อภิสิทธิ์” รับ ตกใจ “เชน” เดือด ทุ่มเก้าอี้ในสภา

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.  ที่โรงแรมอมารีดอนเมืองแอร์พอร์ต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมสัมมนา โครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ในหัวข้อ “ก้าวไปด้วยกันรู้เท่าทัน สถานการณ์บ้านเมืองเรื่องของเรา” ตอนหนึ่งว่า สังคมจะปรองดองได้คือการยอมรับความหลากหลายและเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ฝ่ายค้านเป็นตัวแทนประชาชนสะท้อนความคิดเห็น เราไม่ได้ค้านทุกเรื่อง จะค้านแค่บางเรื่อง แต่การถกเถียงด้วยเหตุผลอาจถูกมองว่าเป็นการทะเลาะกัน ยืนยันว่าจะขับเคลื่อนทั้งในและนอกสภาโดยไม่ละเมิดสิทธิใคร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาเพราะไม่มีการปฏิบัติตามข้อบังคับ ฝ่ายค้านถูกจำกัดสิทธิ์ไม่ให้อภิปราย โดยมักจะเกิดในช่วงที่มีการพิจารณาเรื่องใหญ่ที่ทำให้ประเทศเสียหาย การคัดค้านจึงรุนแรงบ้าง

“รู้สึกตกใจที่เห็นนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ทุ่มเก้าอี้ในสภา เพราะอึดอัดถูกปิดปากไม่ให้ถึงปัญหายางพารา จึงมีอารมณ์ ขอประชาชนอย่าเบื่อหน่ายการเมือง ขอให้ดูว่าสาเหตุความขัดแย้งคืออะไรและทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาธิปไตยเติบโตและเดินไปข้างหน้า ทั้งนี้ นายเชน ก็รู้สึกเสียใจ และได้กล่าวคำขอโทษ แต่หากสภาเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายจริงๆก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมก็ได้เตือนสมาชิกอยู่ตลอดว่า แม้จะหงุดหงิดอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องระมัดระวังพฤติกรรมทั้งหลาย และขอเตือนรัฐบาลอีกครั้งว่าเหตุการณ์อาจจะซ้ำรอยในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่คิดว่าการจำกัดพื้นที่ทั้งหลายแล้วจะได้รับชัยชนะ สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถจำกัดความคิดได้ และหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรียังคิดที่จะปิดหูปิดตาประชาชนในที่สุดก็จะไม่สามารถดำรงตำแหน่งอยู่ได้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งที่พรรครัฐบาลทำในขณะนี้ ตรงข้ามกับที่นายโทนี่ แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

กล่าวปาฐกถาไว้ จึงไม่ทราบว่าจะเสียเงินในการจัดปาฐกถากันทำไม เพราะไม่นำพาในสิ่งที่เขามาเตือนสติเลย แต่ตนก็เตือนส.ส.ในพรรคว่าต้องระวัง ซึ่งกรณีของนายเชน ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งต้องชมนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมในขณะนั้น ที่พยายามบอกให้ทุกฝ่ายใจเย็น อย่างไรก็ตามการที่รัฐบาลเร่งลงมติไม่ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เพราะรัฐบาลต้องการให้จบๆ กันไป ซึ่งขอยืนยันว่าปัญหายังไม่จบ เพราะประชาชนยังเดือดร้อนอยู่ แต่ตอนนี้รัฐบาลกำลังแบ่งแยกประชาชน โดยเฉพาะกรณีการช่วยเหลือชาวนา กับชาวสวนยางพารา น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีหน้าที่ในการสลัดรัฐบาลให้หลุดพ้นจากความคิดอย่างนี้ เพราะเป็นความคิดที่แย่มาก ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ทำ ก็เท่ากับว่าสมรู้ร่วมคิดด้วย และอยากเตือนรัฐบาลว่า นับวันกำลังสร้างเงื่อนไขให้มีแต่ความวุ่นวายในบ้านเมือง.